xs
xsm
sm
md
lg

งง! ผญบ.ขายไก่โครงการ 9101 ยกเล้า อ้างขาดทุนแต่ไม่ชี้แจงและขอความเห็นชาวบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - ชาวบ้าน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร้องตรวจสอบผู้ใหญ่บ้านขายไก่ไข่ในโครงการ 9101 ยกทั้งเล้ากว่า 700 ตัว อ้างประสบปัญหาขาดทุน แต่ไม่มีการชี้แจงรายละเอียดยอดเงินที่เหลือในบัญชี และขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน ชี้หากตรวจพบบริหารไม่โปร่งใสจริงก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอน

ชาวบ้านบ้านมะขามโพรง ม.4 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันออกมาเรียกร้องให้ทางอำเภอ จังหวัด หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบการบริหารจัดการโครงการเลี้ยงไก่เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ของชุมชนสะเดา 2 ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน

หลังจากนายนิรันต์ สายหลอด ผู้ใหญ่บ้านบ้านมะขามโพรง ในฐานะประธานโครงการฯ ได้ขายไก่พันธุ์ไข่ที่ซื้อมาเลี้ยงในโครงการฯ กว่า 700 ตัว โดยไม่มีการทำประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน ทั้งไม่มีการชี้แจงรายละเอียดหรือยอดเงินในบัญชีให้ชาวบ้าน และสมาชิกกลุ่มรับทราบ บอกเพียงว่าที่ต้องขายไก่เพราะประสบปัญหาขาดทุน ส่วนไก่ที่ขายก็มีชาวบ้านและสมาชิกบางคนขอซื้อไปเลี้ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ขอใช้พื้นที่ตั้งเดิมของโครงการเป็นสถานที่เลี้ยงต่อแล้วจ่ายค่าเช่าให้กลุ่ม

การตัดสินใจขายไก่โดยพลการของผู้ใหญ่บ้านสร้างความคลางแคลงใจให้ชาวบ้านว่าเป็นโครงการงบประมาณของรัฐทำไมถึงขายได้ ทั้งไม่มีการประชาคมหรือแจ้งให้หน่วยงานภาครัฐทราบ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารโครงการ 9101 ของหมู่บ้านด้วย หากโปร่งใสจริงก็ให้นำหลักฐานออกมาชี้แจง แต่หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเป็นงบประมาณของรัฐ

ขณะที่นายนิรันต์ สายหลอด ผู้ใหญ่บ้านบ้านมะขามโพรง กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.สะเดามีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน หลังจากมีโครงการ 9101 ลงมาก็ได้มีการทำประชาคมตามขั้นตอนเพื่อขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน โดยทั้ง 8 หมู่บ้านจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มในการดำเนินการจำนวน 3 โครงการ คือ โครงการเลี้ยงไก่เนื้อ ไก่ไข่ และทำเกษตรผสมผสาน ภายใต้งบประมาณทั้งหมด 1,697,070 บาท แบ่งเป็นงบวัสดุ 947,070 บาท และงบแรงงาน 750,000 บาท

ส่วนโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ของชุมชนสะเดา 2 ที่ชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบนั้น ก็ยืนยันว่าทุกขั้นตอนดำเนินการอย่างโปร่งใส ซึ่งตอนแรกมีชาวบ้านเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม 27 คน โดยจะมีแบ่งปันผลกำไรให้สมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมกลุ่ม ต่อมาหลายคนไม่มีเวลาจึงขอออกจากการเป็นสมาชิก ปัจจุบันจึงเหลือสมาชิกเพียง 7 คน

การเลี้ยงระยะแรกก็ยังไม่มีปัญหาอุปสรรค เพราะช่วง 6 เดือนแรกยังได้รับการสนับสนุนหัวอาหารจากทางรัฐอยู่ แต่ระยะหลังเริ่มประสบปัญหาขาดทุนเพราะสามารถเก็บไข่ไก่ขายได้เพียงวันละ 600-700 บาท แต่ต้องจ่ายค่าอาหารสูงถึงวันละ 920 บาท จากปัญหาดังกล่าวจึงได้ไปปรึกษากรรมการและสมาชิกกลุ่มเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งยังได้ไปแจ้งและขอคำแนะนำจากทางเกษตรอำเภอแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจขายไก่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่านี้ ส่วนเงินที่ได้จากการขายไก่รวมกว่า 50,000 บาทก็ยังอยู่ในบัญชีของกลุ่ม ซึ่งก็พร้อมให้ตรวจสอบและชี้แจงทุกขั้นตอน





กำลังโหลดความคิดเห็น