ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ลั่นชุมนุมใหญ่ 30 มิ.ย. 61 ทวงสัญญา “บ้านป่าแหว่ง” พร้อมจัดพิธีกรรมล้านนาโบราณสาปแช่ง และอัญเชิญผีอารักษ์ 32 ตน สิงสถิตในบ้านพักและอาคารชุด ขณะเดียวกันทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา วอนยื่นมือช่วยแก้ปัญหา
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านสวัสดิการทหารบก ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 กลุ่มตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการเคลื่อนไหวและการเตรียมการจัดกิจกรรมนัดชุมนุมรวมพลังคนเชียงใหม่ในวันที่ 30 มิ.ย. 61 เพื่อทวงถามสัญญาการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชิงดอยสุเทพ หลังพบว่ามีการดำเนินการผิดข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาร่วมกันที่ให้ไว้กับภาคประชาชน ว่าจะรอจนครบกำหนดส่งงานงวดสุดท้ายในวันที่ 18 มิ.ย. 61 แล้วส่งมอบคืนพื้นที่เพื่อทำการฟื้นฟูสภาพป่า
ล่าสุดพบว่านอกจากไม่มีการส่งมอบงานงวดสุดท้ายเพราะการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ยังมีการเดินหน้าก่อสร้างต่อโดยไม่มีการยุติสัญญา และมีการให้คนเข้าไปอยู่อาศัยทั้งที่ตกลงว่าจะไม่มีการให้คนเข้าไปอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์
ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวนัดชุมนุมใหญ่รวมพลังคนเชียงใหม่ในวันที่ 30 มิ.ย. 61 ที่ข้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นเพราะทางศาลไม่รักษาคำพูดตามที่ตกลงกันไว้ในการเจรจาแก้ไขปัญหาระหว่างรัฐบาลและเครือข่ายภาคประชาชน เมื่อต้นเดือน พ.ค. 61 ที่มีข้อตกลงกัน 3 ข้อ ได้แก่ 1. พื้นที่โครงการจะไม่มีผู้พักอาศัย 2. การฟื้นฟูพื้นที่จะดำเนินการทันทีที่ครบกำหนดส่งมอบงานงวดสุดท้ายตามสัญญาวันที่ 18 มิ.ย. 61 และ 3. มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันแก้ไขปัญหา
โดยที่ทางศาลระบุว่ามอบให้รัฐบาลดำเนินการพิจารณาตัดสินใจในการแก้ไขปัญหานี้ และจะปฏิบัติตาม ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเป็นที่พอใจของภาคประชาชน จึงยินยอมยุติการเคลื่อนไหวเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนดในวันที่ 18 มิ.ย. 61 ปรากฏว่าไม่มีการปฏิบัติตามข้อตกลง
นอกจากจะไม่มีการย้ายผู้พักอาศัยออกจากอาคารชุดในพื้นที่พิพาทแล้วยังมีการย้ายผู้อยู่อาศัยเข้าไปเพิ่มอีก ขณะเดียวกันไม่มีการยุติสัญญาโครงการกับผู้รับเหมาที่ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดสัญญาส่งมอบงานงวดสุดท้ายในวันที่ 18 มิ.ย. 61 โดยพบว่าจนถึงเวลานี้ยังมีการก่อสร้างอยู่และทางศาลไม่มีการแสดงความชัดเจนใดๆ ด้วย
ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา ตัวแทนภาคประชาชนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการแก้ไขปัญหาทั้งรื้อถอนและฟื้นฟู ดูเหมือนจะถูกกีดกันไม่ได้ความร่วมมือในการทำหน้าที่เท่าที่ควร ทั้งในเรื่องการขอแบบแปลนโครงการ, สัญญาโครงการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่โครงการเพื่อสำรวจพื้นที่และรวบรวมข้อเท็จจริง พร้อมกับกรรมการจากภาคส่วนอื่นๆ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 61
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และคนเชียงใหม่ จะต้องนัดรวมตัวเคลื่อนไหวแสดงพลังปกป้องดอยสุเทพอีกครั้ง เพื่อทวงสิทธิ์ และทวงสัญญาตามข้อตกลงที่ให้กันไว้เมื่อครั้งเจรจาหาทางออกของปัญหาร่วมกัน เพราะยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้ดอยสุเทพที่ถือว่าเป็นจิตวิญญาณของคนเชียงใหม่ ถูกลบหลู่กระทำย่ำยี่ต่อไปเรื่อยๆ เช่นนี้
สำหรับการจัดกิจกรรมในวันที่ 30 มิ.ย. 61 นั้น ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ บอกว่า นอกจากการนัดชุมนุมใหญ่รวมพลังคนเชียงใหม่ ที่เชื่อว่าน่าจะมีผู้คนออกมาร่วมกันมากมายไม่น้อยกว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 61 แล้ว ในครั้งนี้จะมีการประกอบพิธีกรรมอ่านโองการสาปแช่งตามแบบล้านนาโบราณ และมีการทำพิธีอัญเชิญผีอารักษ์ 32 ตน ที่ปกปักรักษาป่า ขุนเขาและลำห้วย มาสิงสถิตในบ้านพัก, อาคารชุด และพื้นที่โครงการ รวมทั้งจะมีการประกาศเจตนารมณ์ของคนเชียงใหม่ต่อเรื่องที่มีการผิดสัญญาตามข้อตกลงที่ให้กันไว้ด้วย
ขณะที่ในวันนี้ (25 มิ.ย.) ทางเครือข่ายฯ ยังได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา เรียกร้องขอให้ยื่นมือเข้ามาช่วยจัดการแก้ไขปัญหานี้ด้วย เพื่อไม่ให้ปัญหายืดเยื้อมากไปกว่านี้
ในส่วนของแนวโน้มการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหานี้นั้น นายธีระศักดิ์บอกว่า ขณะนี้ในส่วนของคณะกรรมการร่วมที่ภาคประชาชนมีตัวแทนได้รับการแต่งตั้งเข้าไปเป็นอนุกรรมการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่และมีการประชุมหารือร่วมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยพยายามจะหาข้อเสนอที่เชื่อว่าดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จัดทำเป็นข้อสรุปและนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 6 ก.ค.61 ทั้งแนวทางการรื้อถอนและแนวทางการฟื้นฟู
ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงพอสมควรว่าอาจจะมีปัญหาอุปสรรค เพราะที่ผ่ามาพบปัญหาแล้วว่าตกลงกันแล้วแต่ไม่ทำตาม และไม่ทราบว่าจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ทั้งเชื่อว่าหากเพียงทำตามข้อตกลงที่ให้สัญญากันไว้ ปัญหาทุกอย่างน่าจะมีทางออกและจบลงด้วยดี