ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ สุดผิดหวัง! ศาลอุทธรณ์ภาค 5 อนุญาตให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหา “บ้านป่าแหว่ง” เข้าพื้นที่โครงการสำรวจและศึกษาข้อเท็จจริง แต่ให้เข้าเฉพาะตัวแทนหน่วยงานราชการและนักวิชาการเท่านั้น ชี้เป็นการเพิกเฉยข้อสั่งการ “ลุงตู่” ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญธรณีวิทยาชี้เป็นโครงการที่ไร้สามัญสำนึกในการเลือกพื้นที่ก่อสร้าง
บ่ายวันนี้ (12 มิ.ย.) สำนักงานศาลยุติธรรมอนุญาตให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งคณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคณะกรรมการดำเนินการต่อสิ่งก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม เข้าพื้นที่โครงการเพื่อสำรวจตรวจสอบและศึกษาข้อเท็จจริงสำหรับการพิจารณาแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าอนุญาตให้เข้าเฉพาะกรรมการในส่วนที่เป็นตัวแทนของภาคราชการและนักวิชาการเท่านั้น โดยเพิ่งมีการแจ้งยืนยันการอนุญาตช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งทางภาคประชาชนได้ท้วงติงไปว่าเหตุใดจึงไม่มีตัวแทนของภาคประชาชนเข้าร่วมด้วย ทำให้ต่อมามีการอนุญาตให้ตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมได้บางส่วนจำนวน 7 คน ทางภาคประชาชนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักการ จึงตัดสินใจร่วมกันว่าภาคประชาชนทั้งหมด รวมทั้งนักวิชาการจำนวนหนึ่งจะไม่เข้าร่วมการลงพื้นที่สำรวจโครงการในครั้งนี้ด้วย
นายบัณรส บัวคลี่ โฆษกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ระบุว่า ทางภาคประชาชนรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งต่อการพิจารณาอนุญาตให้เข้าพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อสำรวจตรวจสอบและศึกษาข้อเท็จจริง ที่ตอนแรกไม่มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วม และต่อมามีการอนุญาตเพียงบางส่วน ทั้งๆ ที่กรรมการทุกคนควรจะต้องได้เข้าทั้งหมดและมีการประสานงานไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะทุกคนเป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรีและมีหน้าที่ที่จะต้องทำงานศึกษาข้อเท็จจริง ทั้งเอกสารและลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
การที่ไม่อนุญาตให้กรรมการที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมลงพื้นที่ เป็นสิ่งที่ผิดหลักการและดูเหมือนจะเป็นการขัดต่อคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่แต่งตั้งกรรมการทั้งหมดขึ้นมาทำหน้าในเรื่องนี้อีกด้วย ทั้งนี้ กรรมการที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนทั้งหมด รวมทั้งนักวิชาการบางส่วนจึงตัดสินใจปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการลงพื้นที่สำรวจในครั้งนี้ และจะมีการรายงานในการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ต่อไป แม้จะรู้สึกเสียดายที่ทำให้แผนการทำงานต่างๆ ที่วางไว้ต้องเลื่อนล่าช้าออกไป
โฆษกเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยด้วยว่า จากการที่นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้ติดตามสอบถามไปยังทางศาลเกี่ยวกับการส่งมอบงานโครงการก่อสร้างดังกล่าวที่กำหนดส่งมอบงานวันที่ 18 มิ.ย. 61 ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางฝ่ายศาลแล้วว่าการก่อสร้างจะยังไม่แล้วเสร็จและผู้รับเหมาจะยังไม่สามารถส่งมอบงานและพื้นที่ได้ตามกำหนดดังกล่าว
ส่วนข้อสังเกตที่ว่ายังมีผู้พักอาศัยอยู่ในอาคารที่พักโครงการดังกล่าว ทั้งที่นายกรัฐมนตรีสั่งการชัดเจนว่าจะไม่ให้ผู้ใดเข้าไปใช้ประโยชน์นั้น ทางฝ่ายศาลแจ้งว่ายังมีผู้พักอาศัยอยู่และยังไม่มีแผนที่จะย้ายออก ซึ่งถือว่าเป็นการเพิกเฉยคำสั่งนายกรัฐมนตรี และน่าผิดหวังเช่นเดียวกันกับที่ไม่อนุญาตให้กรรมการที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมสำรวจพื้นที่
ส่วนกรณีที่มีผู้พบว่าบ้านพักมีการเปิดไฟส่องสว่างไสวยามค่ำคืนนั้น เบื้องต้นยังมองแง่ดีว่าน่าจะเป็นการติดตั้งและทดสอบระบบไฟฟ้าส่องสว่างของผู้รับเหมาก่อสร้าง
ด้านรองศาสตราจารย์สุจิตร พิตรากูล นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา และอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมลงพื้นที่สำรวจโครงการก่อสร้างด้วย แต่ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม เปิดเผยว่า ตามปกติและโดยสามัญสำนึกทั่วไปแล้วพื้นที่ที่มีความลาดชันเกิน 30% เป็นพื้นที่ที่ต้องไม่มีกิจกรรมของมนุษย์เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการพังทลาย อีกทั้งกฎหมายไม่อนุญาตด้วย
ในกรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น การที่หน่วยงานราชการดำเนินการเสียเองทั้งที่กฎหมายห้าม เหมือนไร้สามัญสำนึก และเป็นทัศนะอุจาดอย่างยิ่งที่คนปกติทั่วไปย่อมจะคิดได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เข้าพื้นที่โครงการเพื่อสำรวจและศึกษาข้อเท็จจริงนั้น บริเวณทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและตรวจตราผู้ที่จะเข้าออกบริเวณศาลอย่างเข้มงวด รวมทั้งมีการถ่ายภาพรถทุกคันที่จอดบริเวณศาลด้วย
