บุรีรัมย์ - ศึกษาธิการจังหวัดสั่งพักราชการครูโรงเรียนดังบุรีรัมย์ หลอกเรียกรับเงินครูอัตราจ้าง 5 คน รายละ 2 แสน อ้างช่วยให้สอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยได้ หลังผลสอบพบมีมูลความผิดจริง พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ผิดจริงโทษถึงขั้นปลดออก-ไล่ออก ชี้แม้ไกล่เกลี่ยยอมความคดีอาญา แต่ลบล้างความผิดวินัยไม่ได้
วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีผู้เสียหาย 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูอัตราจ้าง ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีอาญาและร้องให้เอาผิดทางวินัยต่อ นายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่าครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกเรียกรับเงินคนละ 200,000 บาท โดยอ้างว่าจะสามารถช่วยเหลือให้สอบบรรจุเป็นพนักงานราชการ หรือครูผู้ช่วย ในสังกัด สพป.เขต 4 จังหวัดนครราชสีมาได้ โดยให้จ่ายเงินก่อนล่วงหน้าคนละ 100,000 บาทเป็นค่าดำเนินการหรือวิ่งเต้น หากได้รับการบรรจุก็จ่ายเพิ่มอีกคนละ 100,000 บาท โดยผู้เสียหายทั้ง 5 คนได้หลงเชื่อจ่ายเงินให้ครูคนดังกล่าวไปคนละ 100,000 บาทตั้งแต่เดือน พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายกลับไม่ได้มีการบรรจุจริงตามที่ครูคนดังกล่าวอ้าง ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด นายสมศักดิ์ ชอบทำดี ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) บุรีรัมย์ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งพักราชการครูชำนาญการพิเศษคนดังกล่าวแล้ว หลังผลการสืบสวนข้อเท็จจริงพบมีมูลว่ามีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากครูอัตราจ้างตามที่มีการร้องเรียนจริง พร้อมทั้งได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรงตามขั้นตอนด้วย ซึ่งหากผลสอบวินัยร้ายแรงพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำผิดจริงจะต้องถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นปลดออก หรือไล่ออก เพราะถือเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง
หลังจากมีคำสั่งให้พักราชการครูคนดังกล่าวก็ไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งได้เร่งรัดให้กรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อพิจารณาลงโทษตามความผิด โดยหากความผิดชัดแจ้งก็มีโทษสถานหนักคือปลดออกหรือไล่ออกทันที
“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทางคดีอาญาครูที่ถูกกล่าวหาและผู้เสียหายได้มีการไกล่เกลี่ยยอมความตกลงคืนเงินกันแล้วก็ไม่ได้มีผลในการพิจารณาโทษทางวินัยเพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ไม่สามารถลบล้างความผิดที่กระทำไปได้” นายสมศักดิ์กล่าวในตอนท้าย