xs
xsm
sm
md
lg

ค่าต่อผม 1.4 แสน! เจ้าของร้านยันแจ้งราคาลูกค้าแล้ว แต่ยอมรับไม่ได้บวกตัวเลขให้(ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครปฐม - สาวเจ้าของร้านต่อผม 1.4 แสนพบตำรวจ พาณิชย์ สคบ. ร่วมตรวจด้วย ขณะชมรมร้านเสริมสวย ชี้มองได้ 2 มุม



จากกรณี คลิปที่มีชาย 2 คนชกต่อยกันชุลมุน โดยมีหญิงสาวอีกคนร้องตะโกนด้วยความไม่พอใจว่า ค่าทำผมแสนสี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหลายมุมมองต่อเรื่องดังกล่าวนั้น

ล่าสุด วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม น.ส.ณฐิตา หรือ จูน มุศรี อายุ 36 ปี เจ้าของร้านทำผม พร้อมกับ นายธนิสร หรือ บอล ประกอบเสียง อายุ 38 ปี สามี ได้เข้าพบ พ.ต.อ.สามารถ รอดผล ผู้กำกับการสอบสวน หลังถูกเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในฐานะพยานเห็นเหตุการณ์ โดยได้มีการนำหลักฐานและทนายความมาด้วย

น.ส.ณฐิตา หรือจูน ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มแรก ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่ามีการพูดคุยตกลงราคากับคู่กรณีก่อนหน้าแล้ว และเพิ่งทราบว่า คู่กรณี คือ น.ส.น้ำผึ้ง จันทร์มีชัย หรือออย แจ้งความดำเนินคดีกับตนเองในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งข้อเท็จจริง ตนเองมีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวแต่อย่างใด

และตอนนี้คงต้องรอดูว่าฝ่ายคู่กรณีจะมีการมาพูดคุยตกลงในเรื่องนี้หรือไม่ โดยส่วนตัวก็ไม่ได้ต้องการที่จะแจ้งความคู่กรณีกลับ เพียงแต่ต้องการให้คู่กรณี ออกมาชี้แจงกับสื่อและสังคม และออกมาขอโทษ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ร้านเสียชื่อเสียง โดยพร้อมหาก สคบ.จะลงพื้นที่มาตรวจสอบร้านของตนเอง

ด้าน พ.ต.อ.สามารถ ผู้กำกับสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญตัวนางสาวณฐิตา มาสอบปากคำ หลังจากที่ น.ส.น้ำผึ้ง หรือออย ได้แจ้งความไว้ แต่ไม่ได้เป็นการมาพูดคุยไกล่เกลี่ยของทั้งสองฝ่ายตามที่เป็นข่าว เนื่องจากยังไม่เคยมีการพูดคุยกับทางเจ้าของร้านทำผม โดยเบื้องต้น ต้องขอสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริง และคิดว่าการพูดคุยในวันนี้ จะได้ข้อสรุปที่ดีและมีทางออกให้กับทั้งสองฝ่าย โดยจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

ต่อมา น.ส.ณฐิตา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองยอมรับว่าอาจจะผิดพลาดตรงที่ไม่ได้มีการบวกยอดราคาให้ลูกค้าในตอนแรก โดยแจ้งเพียงรายการที่ทำ คือ ต่อผม 24 ชั้น ชั้นละ 4,000 บาท ฟอกสีผม ค่ากัดสีผม 5 รอบ รอบละ 3,000 รวมผมต่อ ราคา 15,000 บาท ทำสีผม 1 รอบ ทั้งสีผมจริงและสีผมต่อ ราคา 8,500 บาท ทำสปา Joico 6 รอบ ราคา 12,000 บาท ทำเล็บ ต่อเจล และติด เพชร ชวารอฟกี้ ของแท้ ราคา 4,500 บาท ค่าเสื้อผ้า ราคา 3,160 บาท

ซึ่งเมื่อรวมรายการทั้งหมด เป็นเงิน 139,160 บาท โดยในวันนั้น คู่กรณี คือ น้องออย ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร และยังให้ทิปพนักงานอีกคนละ 1,000 บาท รวมทั้งหมด 143,160 บาท แต่ทางร้านคิดราคาเพียง 140,000 บาท ซึ่งคู่กรณีก็ได้โอนเงินจ่ายมาก่อนเพียง 40,000 บาท และก็เงียบหายไป

ต่อมามีการแชร์คลิป และคู่กรณีก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกทางร้านกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่ง ณ ตอนนี้ ตนยังยืนยัน ว่าไม่ได้เก็บราคาเกินจริง และดูอาการเหมือนวันที่เกิดเหตุทางฝ่ายตรงข้ามน่าจะมีอาการมึนเมาด้วย ตอนนี้ขอทราบจากตำรวจก่อนว่าจะมีหลักฐานหรือข้อมูลอะไรได้บ้าง

โดยตอนนี้ยังจะไม่ปรับราคาลง แต่อาจจะปรับได้ตามความเหมาะสมเพราะมีราคาหลายแบบให้ลูกค้าเลือก ส่วนตอนนี้ต้องมีคนพูดโกหกตนเองก็ยินยันว่าพูดจริงไม่ได้โกหกแน่นอน ส่วนราคาที่คนมองว่าแพงนั้นเพราะเป็นงาน แฮนด์เมด เป็นงานมีฝีมือลูกค้าสั่งทำเอง ตนเองไม้ได้ยัดเยียดให้ทำ ส่วนเงินที่เหลือ นั้นก็ขอแค่ฝั่งตรงข้ามบอกว่าไม่มีก็ให้พูดมาตรงๆ เพราะส่วนตัวเงินไม่ใช่เรื่อหลัก แต่เป็นเรื่องของการต้องมาคุยกันก่อนและขอดูท่าทีจากนั้นไปก่อนว่าจะเป็นอย่างไร และวันนี้เพิ่งทราบว่าเขาจะไม่มา ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะมาเจรจากันในวันนี้

สำหรับประเด็นดังกล่าว นายเทิดศักดิ์ อุ่นศิริ เจ้าของร้าน cut out ประธานชมรมช่างเสริมสวยเทศบาลนครนครปฐม กล่าวว่าสำหรับประเด็นในเรื่องนี้มองว่าเป็นการสื่อสารกันที่คลาดเคลื่อน แต่ยอมรับว่าราคานั้นแพงในระดับที่ร้านในชมรมที่เป็นสมาชิกกว่า 700-800 ราย ที่อยู่ในจังหวัดนครปฐม และจังหวัดรอบข้างทั้งจังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ก็ไม่มีราคานี้ เพราะมีการควบคุมโดยเทศบาลนครนครปฐม จึงไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้ในชมรม และเรื่องราคา 1.4 แสนบาทนั้น ถือเป็นข่าวที่มีผลกระทบแน่นอนกับวงการการทำผล เพราะจะถูกจับตาเป็นพิเศษ

นายเทิดศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ ในชมรมได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ คือได้นำมาตรการมาคุยกันทั้งในเรื่องราคาและการบริการเป็นหลัก โดยมีการอบรมให้ผู้ประกอบการกับลูกค้าได้สื่อสารกันด้วยความเข้าใจก่อน และต้องชี้แจ้งกันให้เข้าใจ ลูกค้าก็จะมีแบ่งระดับ ทั้งวีไอพี ระดับกลาง และระดับล่าง คือต้องดูจากการตกลงกันเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ กรณี 1.4 แสนบาท ก็มองว่าแพงมาก เพราะที่ร้านทำก็อยู่ในระดับหลักหมื่น ไม่เกิน 2 หมื่นและราคานี้ในจังหวัดนครปฐม และรอบข้างก็ราคาเดียวกัน แต่ถ้ามาพูดแบบนี้ ก็จะถูกโจมตีจากผู้ประกอบการทำร้านเสริมสวยด้วยกัน แต่ถ้ามองอีกมุม เรื่องนี้เป็นงานฝีมือ เป็นงานศิลปะะ ราคาอยู่ที่ความพึงพอใจและตกลงกัน ถ้ามองในการค้า ก็ถือว่าประสบความสำเร็จหากลูกค้าพอใจในผลงานและยอมจ่ายในราคา 1.4 แสน เรียกว่ายกระดับให้วงการ

แต่ในประเทศไทยวงการทำผมถือว่าราคาถูกมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะสระผมที่พม่าในพื้นที่ชุมชนก็ 300 บาท ถ้าเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ ก็ 1.5 พันบาท อีกหน่อยราคาคงขยับไปแบบนี้ด้วยกลไกเศรษกิจ ต่อไปคงมีคนทำผม 2 แสนเป็นราคาธรรมดาหากพอใจ เช่นเดียวกับการขายงานศิลปะ อย่างศิลปินดัง ราคารูปวาดยังเป็นหลักสิบล้าน อยู่ที่คนซื้อพอใจหรือไม่

ส่วนที่ชมรมฯ จะมีการให้กำหนด คือการขึ้นทะเบียนการค้ากับกระทรวงพาณิชย์ ขึ้นทะเบียนกับเทศบาล และมีใบวุฒิบัติอมรมการเสริมสวยที่ชัดเจน ซึ่งในชมรมจะมีกติกาชัดเจนถึงไม่เกิดปัญหา เรื่องนี้มี 2 มุมมองต้องเข้าใจในกลไกทั้งคู่ แต่ก็ต้องจบด้วยการเจรจากัน 2 ฝ่ายเช่น 1.4 แสน ต่อรองกันเหรือ 8 หมื่น 7 หมื่น ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการที่จะตกลงกัน

โดยในช่วงบ่าย นางกาญจน ชมมี พาณิชย์จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมผู้บริโภคจังหวัดนครปฐม (สคบ.) ได้เดินทางมาที่ สภ.โพธ์แก้ว เพื่อรอที่จะสอบสวน หาข้อมูลจากนางสาว ณฐิตา หรือ จูน มุศรี อายุ 36 ปี เจ้าของร้านทำผม หลังเกิดประเด็นเรื่องเกี่ยวกับราคา แต่พบว่า ยังถูกสอบปากคำอยู่จึงได้มีการ ขอนำเส้นผมและอุปกรณ์ที่ใช่ในการประกอบการมาตรวจสอบด้วยตาเปล่า และรอผมการสอบสวนจากพนักงานาสอบสวนอีกครั้งว่าผลการสอบสวนมีข้อมูลอย่างไร

นางกาญจน ชมมี พาณิชย์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีการลงพื้นที่ในการตรวจสอบร้านพิตตี้ ชิค ที่เกิดเป็นประเด็นโดยพบว่ามีการจัดร้านที่สะอาดเหมาะสม และตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีใบทะเบียนพาณิชย์ ออกเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 61 ได้ระบุว่ามีการจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวย เครื่องสำอาง ขายวิกผม และคอนแทกเลนส์ ทุกชนิด แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะมีการแจ้งให้ไปดำเนินการ

สำหรับประเด็นที่สินค้ามีราคาค่อนข้างสูง นั้นก็ได้สอบถามเบื้องต้นได้รับคำตอบว่าเป็นเทคนิคพิเศษที่ค่อนข้างทำยากและใช้เวลา แต่ข้อมูลก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ โดยจะมีการสรุปข้อมูลเบื้องต้นเพื่อนเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้มีการข้อต้นทุนที่แท้จริงมาตรวนสอบต่อไป และที่ทราบเรื่องราคานั้นทางพาณิชย์จังหวัดนครปฐม ได้มีการนำ พรบ.ที่เกี่ยวข้องมาใช้ คือการต้องกำหนดป้ายราคาให้ชัดเจน

ส่วนประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่นี้จะต้องมีการสอบถามว่ามีการตกลงคุยกันในระดับใด และตกลงอย่างไร โดยตอนนี้ได้ขอความร่วมมือจากผู้บริฏโภคหากมีข้อสงสัยในราคาสินค้าที่ผิดปกติขอให้แจ้งมาเพื่อจะได้ลงพื้นที่ตรวสอบทันที แต่พื้นที่กว้างและมีภารกิจมาก สิ่งที่ดีที่ประชาชนี่จะช่วยได้คือการแจ้งเบาะแสเพื่อจะได้มีการกวดขันที่ชัดเจน

ส่วนในประเด็นที่สำคัญคือ ในส่วนของ สคบ. ตอนนี้ต้องรอการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า ราคาที่ได้รับแจ้งนั้นมา 1.4 แสนบาทนั้น ผู้บริโภคประสงค์จะให้ชี้แจงในเรื่องใดก็จะทำการสอบสวนในเคสนี้ทันที แต่ตอนนี้ก็ต้องรอการให้ปากคำของเจ้าของร้านกับตำรวจและจะมีการสอบเพิ่มต่อไปเพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจนและเกิดประโยชน์ที่สุดกับผู้บริโภคให้มากที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น