อุบลราชธานี - พายุฝนที่ตกลงมาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีทำให้แม่น้ำมูลมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว และพัดเอาร่างเจ้าของโรงงานผลิตถังบรรจุน้ำดื่มขนาดใหญ่ ซึ่งลงไปปลดทุกข์ข้างแพขายอาหาร จมหายไปกับกระแสน้ำนานเกือบ 1 วัน ก่อนพบศพลอยติดเบ็ดราวใช้จับปลาห่างจากจุดเกิดเหตุเกือบ 500 เมตร
เมื่อเวลา 18.00 น. คืนที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) พ.ต.ท.โสภณ ประดา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากคนหาปลาในแม่น้ำมูลใกล้แพขายอาหารร้านปลาจ๋า บ้านทัพไทย ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี พบศพชายสูงอายุลอยมาติดเบ็ดราวที่ใช้จับปลา จึงพร้อมด้วยมูลนิธิการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานีเข้าตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
ทราบชื่อผู้ตายคือ นายสุนทร นามนาเมือง อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของโรงงานทำถังบรรจุน้ำใช้ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 71 บ้านเพียเพ้า หมู่ 4 ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ สภาพศพลอยคว่ำหน้าและเริ่มซีดจากการจมอยู่ในน้ำเป็นเวลานานเกือบ 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลจีตัมเกาะอุบลราชธานีจึงนำเรือไปแกะศพออกจากเบ็ดนำศพเข้ามาชันสูตรบนฝั่ง และส่งศพไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์รอญาติมารับไปบำเพ็ญกุศล
ด้านนายล้วน จันทร์ทรง อายุ 47 ปี ญาตินายสุนทรที่รุดมาดูศพเล่าว่า เมื่อบ่ายวานนี้ นายสุนทรพร้อมครอบครัวได้มาเที่ยวพักผ่อนกินอาหารที่แพขายอาหารริมหาดคูเดื่อ บ้านทัพไทย ต.แจระแม ห่างจากจุดที่พบศพขึ้นไปทางเหนือน้ำประมาณ 500 เมตร โดยผู้ตายได้ดื่มสุราไปจำนวนหนึ่ง และระหว่างนั้นมีฝนตกลงมาเป็นระยะด้วย
ต่อมานายสุนทรปวดปัสสาวะจึงหย่อนตัวลงไปข้างแพเพื่อปลดทุกข์ ก็เจอกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวไหลมาปะทะกับตัว จึงร้องตะโกนเรียกบุตรชายและญาติพี่น้องที่มาด้วยกันช่วยดึงตัวกลับขึ้นบนแพ แต่กระแสน้ำที่ไหลแรงเนื่องจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้มือนายสุนทรที่ลูกชายและญาติพยายามใช้ดึงร่างกลับขึ้นแพหลุดออกจากกัน และถูกกระแสน้ำพัดร่างจมหายไปต่อหน้าต่อตา
กระทั่งเย็นวันเดียวกันนั้นคนหาปลาก็ไปพบร่างนายสุนทรลอยมาติดเบ็ดราว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และนำศพขึ้นมาบนฝั่งเพื่อมอบให้ญาติที่ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป