จันทบุรี - คณะกรรมการผู้ชำนาญการ และฝ่ายเลขาสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่พิจารณาความเป็นไปได้การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังโตนด ภายใต้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท หลังชาวบ้านเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง
วันนี้ (11 มิ.ย.) น.ส.รวิวรรณ ภูริเดช เลขาคณะกรรมการผู้ชำนาญการ และฝ่ายเลขาสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ที่ประกอบด้วย ชลประทานจากส่วนกลาง จ.จันทบุรี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่พิจารณาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังโตนด หลังองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่อง ได้เสนอโครงการนี้เมื่อปี 2553 จำนวน 4 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำประแกต ต.พวา อ.แก่งหางแมว ปัจจุบัน ก่อสร้างแล้วเสร็จ
โครงการอ่างเก็บน้ำพวาใหญ่ ต.พวา อ.แก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว 40 เปอร์เซ็นต์ โครงการอ่างเก็บน้ำหางแมว ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว ที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 40 เปอร์เซ็นต์ และโครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ โครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด ต.ขุนซ่อง หากแล้วเสร็จจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาช้างป่าบุกพื้นที่ชาวบ้าน ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังจะส่งผลดีต่อพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ท่าใหม่ อ.นายายอาม และ อ.แก่งหางแมว ที่จะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อภาคการเกษตร รวมทั้งอ่างเก็บน้ำวังโตนด ยังสามารถที่จะส่งน้ำไปช่วย จ.ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ได้อีกด้วย
จากนั้นคณะฯ ได้ลงรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยต่อโครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด ที่องค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่อง ได้ผลักดันมาโดยตลอด
สำหรับอ่างเก็บน้ำวังโตนด ใช้เนื้อที่ในการก่อสร้างประมาณ 12,000 ไร่ ภายใต้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท และยังเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดใน จ.จันทบุรี อีกด้วย
ด้าน นายคูณ คำดี ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่กล่าวว่า ตนเองในฐานะผู้นำชุมชนเห็นด้วยที่จะมีอ่างเก็บน้ำวังโตนด เพราะจะทำให้พื้นที่มีน้ำในการทำการเกษตรอย่างเพียงพอ และไม่เกิดน้ำท่วม
“ในส่วนนี้ก็อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณาความเหมาะสมที่จะมีการช่วยเหลือค่าเวนคืนให้แก่ชาวบ้านให้คุ้ม หรือจัดหาสถานที่ให้ชาวบ้านไปอยู่ใหม่ เพื่อชาวบ้านจะได้มีอาชีพทำกิน ไม่เดือดร้อนต่อไป” นายคูณ กล่าว