สระแก้ว - ชาวบ้านหันทราย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยืนหยัดไม่เอาโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังก๊าชชีวภาพฯ นำ 2,500 รายชื่อ เสนอนายอำเภอให้นำเสนอต่อจังหวัด ขณะเดียวกัน ยังเตรียมรวมพลชาวบ้านบุกศาลากลาง หลังพบความไม่โปร่งใสในการสรุปผลการทำเวทีประชาคม ทั้งยังเจอกระบวนการข่มขู่-คุกคามผู้คัดค้าน
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายศิริวัฒน์ วรนาง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหันทราย ในฐานะเลขานุการชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต.หันทราย พร้อมด้วย นายกมล หันทะยูง ได้นำแกนนำชาวบ้าน จำนวน 30 คน ที่ร่วมคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานก๊าซชีวภาพร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.9 และ ม.10 ต.หันทราย เดินทางเข้าพบ นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ เพื่อยื่นรายชื่อชาวบ้าน จำนวน 2,500 รายชื่อ ที่คัดค้านโครงการดังกล่าว
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานก๊าซชีวภาพร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นของบริษัท ซุปเปอร์โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด ได้ทำการว่าจ้าง บริษัท เอ็นไวเวิร์ค จำกัด ให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการสำหรับนำเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการผู้ชำนาญการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งล่าสุด ได้มีการจัดเวทีแสดงความคิดเห็นไปแล้ว 1 ครั้ง ที่ อ.อรัญประเทศ และบ้านทางหลวง อ.วัฒนานคร ในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และได้สรุปผลการประชุมส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ แล้ว
โดย นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ ได้นำตัวแทนชาวบ้าน และแกนนำเข้าพูดคุยในห้องประชุมอำเภอ พร้อมรับปากว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา และจะนำไปชี้แจงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วอีกครั้ง โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเซ็นหนังสืออนุญาตก่อสร้างใดๆ และที่ผ่านมา เป็นเพียงขั้นตอนกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หลังการยื่นรายชื่อผู้คัดค้านโครงการฯ ต่อนายอำเภออรัญประเทศแล้ว ชาวบ้านได้นำป้ายข้อความ “พวกเราไม่ต้องการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซชีวภาพ” มายืนถ่ายภาพหน้าที่ว่าการอำเภออรัญประเทศ และเตรียมนำรายชื่อชาวบ้าน และหนังสือคัดค้านโครงการฯ ยื่นต่อ นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เนื่องจากพบว่า มีความไม่ถูกต้อง และให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใส
หลังผลข้อมูลสรุปการทำประชาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ชาวบ้านรับรู้ข้อมูลโครงการฯ และเห็นชอบให้มีการก่อสร้าง ทั้งๆ ที่ชาวบ้านเพิ่งรับทราบข้อมูลโครงการเมื่อครั้งที่มีการนำป้ายมาติดประกาศภายในหมู่บ้านก่อนการจัดเวทีประชาคมเท่านั้น ที่สำคัญยังมีกระบวนการข่มขู่ชาวบ้านที่คัดค้านโครงการด้วย