จันทบุรี - ชาวบ้านตะกาดเง้าเรื่มมีความหวัง หลังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ส่ง จนท.ลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนของประชาชน หลังกรมทางหลวงชนบทที่ 3 สร้างสะพานข้ามคลองตาสังข์ล่าช้า ซ้ำทำสะพานทางเบี่ยงไม่แข็งแรงจนชาวบ้านหวั่นว่าจะไม่ปลอดภัย ด้านวิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 3 ชลบุรี แจงไม่ได้นิ่งนอนใจ และเตรียมตอกเสาเข็มสะพานเมื่อทุกอย่างพร้อม
วันนี้ (31 พ.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 และ 9 ใน ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ได้ร้องเรียนว่า โครงการรื้อสะพานคลองตาสังข์ ของกรมทางหลวงชนบทที่ 3 ซึ่งอยู่ในช่วงดำเนินการสร้างใหม่แต่ล่าช้า และทำทางเบี่ยงไม่ปลอดภัยจนเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาบนสะพานนั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมประสานไปยัง นายคมกฤษ บุญประเสริฐ วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 3 ชลบุรี ที่เป็นผู้ควบคุมงาน ให้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้นำชุม และชาวบ้านจนได้ข้อสรุปให้ผู้นำชุมชนนัดประชุมชาวบ้านเพื่อหาข้อยุติ ในวันที่ 5 มิ.ย.ที่จะถึงนี้
นายคมกฤษ เผยว่า หลังรับทราบปัญหาได้พยายามที่จะหาทางแก้ปัญหามาโดยตลอด ซึ่งโครงการทำสะพานคอนกรีตขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 90 เมตร แบ่งระยะการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง โดยในช่วงแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 มี.ค.2560 (ช่วงทำการรื้อสะพานเก่า) ช่วงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.2561 ถึง 1 ก.พ.2562 โดยมีระยะดำเนินการ 420 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขนเสาคอนกรีตเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมตอกเสาเข็ม และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะดำเนินการในทันที
“ส่วนทางเบี่ยงสำหรับประชาชนที่ใช้เดินข้าม และขับขี่รถผ่านนั้นเดิมในแบบแปลนไม่มี เพราะเป็นพื้นที่แคบ และไม่ปลอดภัย แต่ทางผู้นำชุมชน และชาวบ้านแนะนำว่าต้องมีเพราะเดินทางลำบาก จึงจำเป็นต้องสร้าง ส่วนทำไมสะพานทางเบี่ยงช่วงกลางสะพานต้องโค้งสูงนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 4-5 ครัวเรือน ต้องใช้เรือในการออกหาปลา จึงต้องทำสะพานทางเบี่ยงให้สูงขึ้นเพื่อให้เรือลอดผ่านไปมาได้ แต่ถ้าหากถึงช่วงก่อสร้างก็จะต้องรื้อถอนทางเบี่ยงออกเพื่อกันเป็นพื้นที่เขตอันตราย แต่ยังต้องมีการพูดคุยกับชาวบ้าน และผู้นำชุมชนให้เข้าใจก่อน เพื่อป้องกันปัญหาการไม่เข้าใจกันในขณะปฏิบัติงาน” นายคมกฤษ กล่าว
