xs
xsm
sm
md
lg

สอบแล้วมีมูล 3 เด็กชายชำเราเด็กหญิง ป.1 เหตุเล่นคะนอง-รู้เท่าไม่ถึงการณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - เตชะ ทับทอง ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงกรณี 3 เด็กชายรุมกระทำชำเราเด็กหญิง ป.1 เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ ส่วนคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ พร้อมทั้งพาย่าและพ่อเหยื่อพูดคุยหารือเรื่องรับเด็กไปเลี้ยงเพราะห่วงสภาพจิตใจและอนาคต หลังพบฐานะยากจนตายายเลี้ยงหลานถึง 5 คน ขณะตำรวจ นักสังคมฯ และนักจิตวิทยาร่วมสอบปากคำเด็กถูกกล่าวหา เบื้องต้นพบมีมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 พ.ค.) นายเตชะ ทับทอง ตัวแทนเพจบีคอส วีแคร์ ได้ลงพื้นที่ ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่แม่เด็กเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.1 ถูก 3 เด็กชาย อายุ 6 ขวบ 8 ขวบ และ 11 ขวบ ซึ่งเรียนโรงเรียนเดียวกัน ร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศที่บริเวณริมสระน้ำแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะเบื้องต้นเป็นเพียงข้อมูลที่ฟังจากญาติและแม่เด็กผู้เสียหาย ซึ่งต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้นก็ยังก้ำกึ่งว่าเป็นการเล่นกันด้วยความคึกคะนองของเด็กหรือเกิดขึ้นจริง ซึ่งก็ต้องรอดูผลตรวจจากแพทย์และรายละเอียดจากการสอบปากคำของทีมสหวิชาชีพอีกครั้ง ส่วนเรื่องคดีความก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย เพราะไม่ว่าจะเป็นฝั่งเด็กที่ถูกกระทำหรือเด็กที่ก่อเหตุก็อยู่ในฐานะผู้เสียหายต้องได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก

โดยในวันนี้ก็ได้พาย่า และพ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายมาพูดคุยหารือกับทางยายและแม่เด็กเพื่อวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไปในการที่จะเลี้ยงดูเด็กที่ถูกกระทำ เพราะเท่าที่เห็นสภาพครอบครัวก็มีฐานะยากจน และตายายก็เลี้ยงหลานถึง 5 คน

ทั้งนี้ยังได้ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญต่อเด็กทั้งสองฝ่าย เพราะถือว่าเป็นผู้เสียหายทั้งคู่ เพราะเด็กอาจจะทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ปัญหาสำคัญคือต้องหาสาเหตุให้ได้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร มีการลอกเลียนพฤติกรรมจากไหน และต้องช่วยกันหาแนวทางแก้ไขให้ถูกจุด โดยเฉพาะการดูแลบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจในระยะยาวอย่างไรเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ รวมถึงหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก

ด้านย่าเด็กผู้เสียหายเล่าว่า ที่มาวันนี้เพราะอยากมาเห็นหลานเพราะหลังจากทราบข่าวจากยายและแม่เด็กก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กเพียงแค่ 6 ขวบ อีกทั้งอยากจะมาพูดคุยกับยายและแม่เด็กด้วยว่าจะขอรับน้องไปดูแลเองเพราะเกรงว่าหากอยู่ที่นี่ต่ออาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจจากการถูกล้อเลียน ทั้งห่วงเรื่องอนาคตของเด็กด้วย

ตร.-นักจิตวิทยาสอบปากคำ 3 เด็กชาย พบมีมูล

ขณะที่ทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง ร่วมกับนักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ ร่วมสอบปากคำ 3 เด็กชาย อายุ 6, 8 และ 11 ขวบ ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงชั้น ป.1 ซึ่งจากการสอบปากคำเด็กทั้ง 3 คนก็ให้ข้อมูลตรงกันว่ามีการกระทำล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่เป็นลักษณะการเล่นกันด้วยความคึกคะนองและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีการจ้างให้มาทำร้ายกัน

ทั้งนี้ หนึ่งในเด็กชายได้เสนอจะให้เงินเด็กหญิงผู้เสียหาย 35 บาทหากทำให้ดู ซึ่งเหยื่อก็ร่วมเล่นด้วยโดยไม่ได้มีการบังคับขืนใจหรือกระทำรุนแรง ทั้งให้ข้อมูลด้วยว่าได้มีเด็กชายพยายามที่จะสอดใส่อวัยวะเพศของผู้เสียหายด้วย ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเช่นกัน

น.ส.กุลจิรา โฉบไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากนี้ก็ต้องทำการสืบหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนที่ใช้อวัยวะเพศสอดใส่ ใครมีส่วนร่วมกระทำ หรือสมรู้ร่วมคิด รวมถึงคนที่ว่าจ้างให้กระทำก็ต้องมีความผิดด้วย แต่การกระทำผิดของเด็กก็ต้องได้รับการคุ้มครอง เพราะอายุไม่ถึง 10 ขวบก็จะเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ หรือมีความคึกคะนองเวลาที่อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มหลายๆ คน และเด็กหญิงผู้เสียหายก็ไม่ได้ถูกขัดขืนใจหรือบังคับแต่มีส่วนร่วมเล่นด้วย

ในคดีอาญาอาจไม่ถึงขั้นต้องจับเด็กที่กระทำไปปรับพฤติกรรม เพราะเด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบ ถึงแม้ว่าไม่มีความผิดทางกฎหมาย แต่อาจจะใช้วิธีทางจิตวิทยา ให้คำปรึกษา ซึ่งจะต้องรวมไปถึงตัวผู้ปกครองด้วยถึงการปล่อยปละละเลยให้เด็กเล่นกันตามลำพังจนทำให้เกิดพฤติกรรมการเล่นที่ไม่เหมาะสม จึงได้ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก

ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหาย ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวได้รับเข้ามาดูแลเยียวยาสภาพจิตใจแล้ว โดยจะมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาคอยให้คำแนะนำปรึกษาเด็กอย่างใกล้ชิด หากเห็นว่าเด็กมีความพร้อมทั้งด้านสภาพร่างกาย จิตใจ ก็จะส่งกลับไปอยู่ในพื้นที่ตามปกติ

ขณะที่ผู้ปกครองของเด็กชายที่ถูกกล่าวหาได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชายและครอบครัวด้วย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความคึกคะนองหรือเล่นกันตามประสาเด็กเท่านั้น แต่โซเชียลกลับไปโพส์ตแชร์จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียทั้งที่ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีญาติเป็นผู้มีอิทธิพลไปขอเคลียร์ให้จบเรื่องก็ไม่เป็นความจริง ความจริงคือยายของเด็กหญิงมาแจ้งกับผู้นำชุมชนให้เรียกผู้ปกครองของเด็กชายทั้ง 3 คนมาตักเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก และยายแจ้งว่าจะพาหลานไปโรงพยาบาลแต่ไม่มีเงินค่ารถ ด้วยความเห็นใจจึงได้ออกเงินเป็นค่ารถและค่าใช้จ่ายให้ยายเด็ก 2,000 บาท

ด้านยายเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเข้าใจว่าเด็กเล่นกัน แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต จึงอยากวิงวอนขอให้ความเป็นธรรมแก่เด็กชายที่ถูกกล่าวหาด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น