เชียงราย - ผบช.ภ.5 ตามดูเอง คดีหนุ่มเชียงรายขนกระสุนปืนเอ็ม 16 เป็นหมื่นนัด แถมซุกระเบิดในร้าน พร้อมซัดทอด ผญบ.สั่งขน เบื้องต้นพบมีส่งขายต่อให้ลูกค้าทาง ปณ.ด้วย-ต้นทางส่งจากสระบุรี
วันนี้ (23 พ.ค.) พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้ควบคุมตัวนายพงษ์พัฒน์ ชัยอินต๊ะ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 205 หมู่ 7 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาคดีขนกระสุนปืนเป็นหมื่นนัด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เชียงแสน และทหารได้ตั้งจุดตรวจหมู่บ้านโค้งงาม หมู่ 7 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ใกล้ชายแดนไทย-สปป.ลาว พบนายพงษ์พัฒน์ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กพ 4475 เชียงราย ขนอาวุธปืนขนาด 5.56 มม.ที่ใช้กับปืนขนาดเอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธสงครามจำนวนมากผ่านมาจึงจับกุมตัว และขยายผลไปตรวจค้นที่ร้านบริการล้างอัดฉีดของนายพงษ์พัฒน์ในเขต อ.เมืองเชียงราย ก็พบลูกกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพงษ์พัฒน์ไปยังร้านบริการรับ-ส่งพัสดุของเอกชนรายหนึ่งที่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองฯ เชียงราย ที่ผู้ต้องหาระบุว่าผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ได้ให้ไปรับกล่องบรรจุเครื่องกระสุนดังกล่าวมา แล้วให้นำไปส่งให้บริเวณถนนหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ โดยเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งล่าสุดนายพงษ์พัฒน์เก็บลูกกระสุนทั้งหมดเอาไว้ในรถก่อนจนถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบขณะกำลังจะขนไปเก็บซ่อนไว้ในพื้นที่ อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายพงษ์พัฒน์ไปยังร้านล้างอีดฉีด เบลล์ คาร์แคร์ ริมทางไปสนามกีฬากลาง เขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อให้ชี้จุดที่มีการนำลูกกระสุน และอาวุธไปเก็บเอาไว้ โดยจุดนี้เจ้าหน้าที่พบเครื่องกระสุนในลักษณะเดียวกันจำนวนเกือบ 5,000 นัด และลูกกระเบิดอีก 1 ลูก ซึ่งพบมีการติดภาพและข้อความเกี่ยวกับการได้รับรางวัลเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน และนายพงษ์พัฒน์ก็ระบุว่าเขาเป็นคนชื่นชอบอาวุธปืนมาก จึงชอบสะสมรวมทั้งฝึกใช้งานเป็นประจำ
นอกจากนี้ พงษ์พัฒน์ยังให้การซัดทอดไปถึงบุคคลอื่นเพิ่มเติมในพื้นที่ ต.ม่วงคำ อ.พาน ด้วยว่าเป็นคนให้นำส่งลูกกระสุนปืนดังกล่าวไปให้ทางพัสดุไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย จึงนำกำลังไปตรวจสอบแต่ไม่พบตัว จึงจะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป
สำหรับกระสุนปืนและลูกระเบิดชนิดขว้างที่ตรวจยึดได้จากนายพงษ์พัฒน์ทั้งหมดนั้น เบื้องต้นพบว่าไม่ตรงกับเลขกระสุนที่มีไว้ในความครอบครองของหน่วยทหารในพื้นที่ จ.เชียงราย แต่อย่างใด
พล.ต.ท.พูลทรัพย์กล่าวว่า หลังการจับกุมนายพงษ์พัฒน์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นคนชอบยิงปืนและอยู่ในวงการนี้มานาน จากนั้นได้มีคนนำของกลางมาฝากก็เลยรับเอาไว้โดยไม่เคยมีประวัติว่าเป็นนักค้าอาวุธแต่อย่างใด ส่วนการที่ให้การซัดทอดไปถึงผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งว่าเกี่ยวข้องด้วยนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ใหญ่บ้านคนนั้นแล้ว แต่เขาให้การปฏิเสธ โดยระบุว่าไม่ได้รู้เห็นในเรื่องดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นบ้านก็ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ก็จะพยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป
สำหรับต้นทางของเครื่องกระสุนดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่พอทราบแล้วว่ามาจาก จ.สระบุรี และได้แจ้งไปยังตำรวจท้องที่เพื่อให้ตรวจสอบขยายผลต่อไปแล้ว
