เพื่อความอยู่รอด! ชาวสวนมะม่วงหันมาเพาะเลี้ยงไส้เดือนขายมูลเป็นรายได้เสริม

อ่างทอง - ชาวสวนมะม่วง หันมาเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อขายมูลเป็นรายได้เสริม ให้ประชาชนผู้รักสุขภาพนำไปเป็นปุ๋ยปลูกผัก ผลไม้ชีวภาพ โดยลงทุนครั้งเดียวมีรายได้ถึงวันละ 200-300 บาท

วันนี้ (23 พ.ค.) นางวาสนา ชำนาญ อายุ 54 ปี ชาวสวนมะม่วง บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 2 ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ได้ทำการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อขายมูลไส้เดือนให้ผู้ที่สนใจนำไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ สร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวอย่างงาม โดยลงทุนครั้งเดียวมีรายได้ถึงวันละ 200-300 บาท

การเลี้ยงไส้เดือนสอดคล้องต่อการทำเกษตรอินทรีย์ ที่ปัจจุบันนี้ มีประชาชนผู้รักสุขภาพนิยมรับประทานพืชผักปลอดสารพิษ ภาครัฐ และเอชนมีการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ปลูกพืชผักปลอดสารพิษใช้ปุ๋ยชีวภาพในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การเพราะเลี้ยงไส้เดือนขายมูลจึงเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรอย่างงาม ซึ่งช่วงนี้ตลาดเปิดกว้าง และมีความต้องการสูง นอกจากนั้น ยังมีหน่วยงานของรัฐเข้ามาแนะนำพร้อมส่งเสริมให้ความรู้ รวมทั้งในการหาตลาดช่องทางในการขายให้ประชาชนอีกด้วย

นางวาสนา กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นชาวสวนมะม่วง แต่เพื่อเป็นการนำพื้นที่มาสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเพิ่มรายได้ และเป็นการทำได้ง่ายๆ โดยลงทุนซื้อพันธุ์ไส้เดือน พร้อมกะละมังพลาสติกภาชนะที่ใช้เลี้ยงไส้เดือน หลัวจากนั้น นำมูลวัวที่ทำการหมักไว้จนได้ที่นำใส่ลงในกะละมัง พร้อมนำไส้เดือนใส่สงไป นำกล้วยน้ำว้าสุกเป็นอาหารเสริม และรดน้ำให้ซุ่มนำกะละมังไส้เดือนไปวางไปตามชั้นที่เตรียมไว้แล้วใช้ผ้าคลุมไว้กันสัตว์อื่น และแมลงที่เป็นอันตรายต่อไส้เดือนเข้าไปทำลาย

โดยในช่วงแรกตนเลี้ยงไส้เดือนไว้ 30 กะละมัง ช่วงนี้ได้ออกลูกหลานขยายเพิ่มเติมเป็น 40 กะละมังแล้ว ในตอนเช้าจะทำการเก็บมูลไส้เดือนขายได้ทุกวัน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม ซึ่งไส้เดือนจะถ่ายมูลไว้บนผิวดินทำให้แยกปุ๋ยได้ง่าย ซึ่งมีลูกค้าขาจร และลูกค้าขาประจำมาซื้อนำไปทำการปลูกผักชีวภาพ ที่กำลังนิยมของประชาชนผู้รักสุขภาพ โดยมูลไส้เดือนของตนเองขายปลีกราคากิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนการขายส่ง 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาเพียง 15 บาทเท่านั้น ซึ่งทำให้มีรายได้เสริมอย่างงามในการเลี้ยงครอบครัว