ระยอง - ครอบครัวหัวร้อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 กระทง กรณีทำร้ายร่างกายรองสารวัตรจราจร สภ.มาบตาพุด พร้อมเปิดใจคลิปฉาวกักขังหน่วงเหนี่ยวลูกสะใภ้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว ยันไม่มีการกักขังตามที่เป็นข่าว
วันนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวหัวร้อน ที่ประกอบด้วย นายพยอม แสงวันดี อายุ 32 ปี น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล อายุ 35 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มกรณีทำร้ายร่างกาย ร.ต.อ.วิทยา วุฒิพันธ์ รองสารวัตรจราจร สภ.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ถูกดำเนินในคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย ดูหมิ่น และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุ พบว่า ครอบครัวหัวร้อนยังมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ โดยมี นายสมยศ แสงวันดี ร่วมเป็นผู้ต้องหาอีก 1 คน จึงแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหา และในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ประกอบคดีในชั้นศาล และจะไปขออำนาจศาลแขวงจังหวัดระยองเพื่อผลัดฟ้องฝากขัง นับตั้งแต่วันที่แจ้งข้อกล่าวหา หลังจากที่ได้มีการขอผลัดฟ้องฝากขังไปแล้ว 1 ครั้ง
ส่วนกรณีมีการแผยแพร่คลิปกักขังหน่วงเหนี่ยวลูกสะใภ้ หลังแม่ของหญิงคนดังกล่าวมารับลูกสาวให้กลับบ้าน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งนั้น นายพยอม แสงวันดี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักใน จ.นนทบุรี ขณะนี้ตนเอง และครอบครัวยังไม่ได้ดูคลิปดังกล่าวจึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่แม่ภรรยาของลูกชายที่มาตามลูกสาวกลับบ้าน และได้มีการกล่าวหาครอบครัวของตนเองว่า กักขังลูกสาว และยืนยันว่าไม่ได้มีการกักขังลูกสะใภ้แต่อย่างใด
เช่นเดียวกับ น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล ที่บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของลูกชายที่ถูกแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นปีแล้ว
ส่วน น.ส.น้อง (นามสมติ) ลูกสะใภ้ครอบครัวหัวร้อนบอกว่า เรื่องดังกล่าวได้เกิดมานานแล้ว และแม่ของตนเองได้เข้าแจ้งความไว้ที่ จ.นนทบุรี ได้มีการเจรจาตกลงเรื่องค่าสินสอดเป็นเงินจำนวน 1 แสนบาท แต่ทางครอบครัวแฟนหนุ่มขอให้แฟนบวชตามประเพณีก่อนจึงจะไปสู่ขอตามประเพณี
“ตอนนี้แฟนอายุ 18 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุที่แม่ออกมาร้องให้กลับบ้านคิดว่าน่าจะเพราะไม่พอใจที่ครอบครัวของแฟนตกเป็นข่าวดัง และเกรงว่าจะได้รับความเดือดร้อนด้วย วันนี้ขอยืนยันว่ามีความสุขดี” น.ส.น้อง กล่าว
