กาญจนบุรี - น้องชายของสาวพนักงานธนาคารวัย 31 ชาวท่าม่วง กาญจนบุรีที่เสียชีวิตหลังจากกินอาหารเสริม “ ลีน” เตรียมปรึกษาทนายความเดินหน้าเอาผิดคนขายและบริษัทผู้ผลิต หลังผลตรวจของแพทย์นิติเวชยืนยันเสียชีวิตจากสารไซบูทรามีน
จากกรณีพบผู้เสียชีวิตหลังรับประทานอาหารเสริมยี่ห้อลีน (LYN) ทั้งแบบกล่องสีขาวและกล่องสีดำ จำนวน 3คน ซึ่งผลการตรวจของแพทย์นิติเวชยืนยันแล้วถึงสาเหตุการเสียชีวิตจำนวน 1 คน คือ นางสาวพิมลวรรณ หมอนอิง หรือ แก้ว อายุ 31 ปี เป็นชาว ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี นั้น
ล่าสุดวันนี้ (14 พ.ค.) นายวุฒิกร หมอนอิง อายุ 30 ปี น้องชายของ นางสาวพิมลวรรณ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่งผลให้การติดต่อประสานกับ ร.ต.อ.นเรศ สุดสาคร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดี ไม่ค่อยสะดวกนัก ดังนั้นจึงได้ติดต่อหาทนายความเพื่อปรึกษาหารือพูดคุยในรายละเอียดต่างๆ เพื่อจะได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการเรื่องของคดีความ
หลังเกิดเหตุวันที่ 28 มีนาคม 2561 ตนและครอบครัวได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เนื่องจากติดใจสาเหตุการตาย เพื่อให้นำศพส่งไปชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตในครั้งนี้ ที่ผ่านมาร้อยเวรเจ้าของคดีได้เชิญตนเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งตนก็ได้ให้รายละเอียดทั้งหมดไปแล้ว โดยเฉพาะข้อมูลการสนทนาเกี่ยวกับการซื้อขายอาหารเสริมยี่ห้อลีน (LYN) ใน Messenger ระหว่างพี่สาวของตนกับตัวแทนจำหน่ายอาหารเสริมยี่ห้อดังกล่าว ซึ่งทางครอบครัวจะใช้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่สาวของตนเสียชีวิต และยังส่งผลให้แม่ของตนเสียใจอย่างหนักจนล้มป่วยจนเสียชีวิตตาม หลังจากพี่สาวของตนเสียชีวิตไปได้เพียง 6 วันเท่านั้น
สำหรับ นางสาวพิมลวรรณ เป็นพี่สาวคนโต ตนเป็นลูกชายคนที่สอง และมีน้องสาวคนสุดท้องอีกคน ซึ่งกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ปกติพี่สาวและตนจะช่วยกันส่งเสียน้องเรียน เนื่องจากพ่อของตนเองอายุมากแล้ว มีอาชีพรับจ้าง ปัจจุบันสุขภาพย่ำแย่ เพราะมีโรคประจำตัวหลายโรค
ดังนั้นในขณะนี้ตนเองและแฟนสาว คือ นางสาวอมรรัตน์ เนาสุวรรณ อายุ28 ปี จึงต้องทำหน้าที่สานต่อจนน้องเรียนจบ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลพ่อเวลาเจ็บป่วยไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้
ส่วนสามีของ นางสาวพิมลวรรณ พี่สาว ได้เลิกรากันไปเกือบ 2 ปีแล้ว มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน อายุ 9 ขวบ ส่วนใหญ่ลูกจะพักอาศัยอยู่กับพ่อของเขา แต่ทั้งสองคนจะช่วยกันดูแลลูกรวมถึงค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกด้วย
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.61) ตนจะประสานไปที่ร้อยเวรเจ้าของคดีในการนัดหมายเดินทางเข้าพบเพื่อขอรับเอกสารผลการตรวจของแพทย์นิติเวชที่ยืนยันการเสียชีวิตของพี่สาวอย่างเป็นทางการ พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับทั้งคนขายและบริษัทผู้ผลิตอาหารเสริมยี่ห้อดังกล่าวเพิ่มเติมต่อไป