อ่างทอง - แม่จูงลูกสาว 16 ปีเข้าแจ้งความ หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายออกโซเชียลเน็ตเวิร์กกระฉ่อนเมืองอ่างทอง เผยต้นเหตุแค่นำสายชาร์จโทรศัพท์ไปและเข้าใจว่าไปยุ่งเกี่ยวแฟนเก่าที่เลิกรากันไป เบื้องต้นเข้ามอบตัวแล้ว 1 ราย ยืนยันเอาเรื่องจนถึงที่สุด
วันนี้ (11 พ.ค.) หลังสังคมโซเซียลในจังหวัดอ่างทอง ได้แชร์คลิปวีดีโอมีความยาวประมาณ 1.09 นาที เป็นภาพหญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง ถูกหญิงรูปร่างอ้วนใหญ่ พร้อมเพื่อนกลุ่มวัยรุ่นเข้ามารุมทำร้าย บางส่วนยืนคุมเชิงและคอยถ่ายภาพวีดีโอ
ซึ่งในคลิปวัยรุ่นคนดังกล่าวพยายามขอร้องกลุ่มวัยรุ่นให้หยุดทำร้ายตัวเอง แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่ฟังและยังพูดถึงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนของคนที่รุมทำร้าย โดยมีวัยรุ่นซึ่งเป็นสาวประเภทสองเข้าไปทำร้ายและพยายามถอดเสื้อผ้าหญิงคนดังกล่าวท่ามกลางกลุ่มวัยรุ่นที่ยืนดูอยู่
ซึ่งคลิปได้ถูกแชร์ไปตามกลุ่มโซเชียลต่างๆ ในจังหวัดอ่างทอง โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าวกันอย่างมาก ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่คลิปออกมาทาง พล.ต.ต.สุรินทร์ ทับพันบุปผา ผบก.อ่างทอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สอบสวนหาที่มาของคลิปวีดีโอ
พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นกลุ่มวัยรุ่นในเขตอำเภอโพธิ์ทอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง ได้ออกหมายเรียกให้มาทำการสอบสวนจำนวน 7 ราย
ด้าน นางสาวปณิดา ทองบุญฤทธิ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/6 หมู่ที่ 20 ตำบลบ้านไร่ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยน้องตุ๊กตา (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ซอยสรงประภา 24 ตำบลสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครฯ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วิทยา โสดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทองให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว นอกจากจะรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว โดยยังนำภาพไปโพสต์ในสื่อโซเชียล ซึ่งสร้างความอับอาย และจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด
ล่าสุด นายโอ๊ต (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ที่มีภาพปรากฏอยู่ในคลิปที่ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแล้วพยายามจะถอดเสื้อขณะถ่ายคลิป ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยมารดา ที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรโพธิ์ทอง
จากการสอบสวนให้การว่า ที่เกิดเหตุเป็นสะพานแห่งหนึ่ง ในตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทองสาเหตุเนื่องจากน้องตุ๊กตา ได้นำสายชาร์จโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่งของตนเองไปแล้วไม่ยอมนำมาคืน ซึ่งตนเองได้ทวงถามแต่ยังเพิกเฉย จึงได้บันดาลโทสะเข้ารุมทำร้าย ประกอบกับ น.ส.สุมาลี จันทร์เรือง หรือเจ๊แหม่ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ที่ 4 ตำบลแสวงหา อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง มีความโกรธเคืองผู้เสียหาย เนื่องจากเข้าใจไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนหนุ่มที่พึ่งเลิกรากันไป จึงพากันรุมทำร้ายแล้วปล่อยทิ้งไว้ลำพัง โดยมีเพื่อนมนกลุ่มชื่อเบนซ์เป็นผู้ถ่ายคลิปแล้วได้นำไปโพสต์ในโลกโซเซียล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่สังคมออนไลน์ว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมตั้งข้อกล่าวหากับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว โดยตั้งข้อกล่าวหารุมทำร้ายทำให้บาดเจ็บสาหัส ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ข่มเหงรังแกคุกคามทำให้อับอายในที่สาธารณะ และส่อไปในทางเพศ และยังผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (4) นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ลักษณะลามก มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท ซึ่งหากทางกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่เข้ามามอบตัวก็จะทำการออกหมายจับพร้อมให้ชุดสืบสวนติดตามนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป