น่าน - นับเงินมือเป็นระวิงทีเดียว..หนุ่มชาวนาเวียงสา-เมืองน่านหันมารับซื้อฟางอัดก้อนขายลดการเผาตอซังข้าว ปีแรกกำไรงามเกิน 20 เท่าตัว บอกหน้าแล้งราคาดีมาก ถึงหน้านาค่อยลงนาต่อ
หลังชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนาเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนใหญ่จะทิ้งฟางข้าวเอาไว้จำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวนาจะใช้วิธีเผาตอซังข้าวก่อนเริ่มทำนาในครั้งต่อไป ส่งผลให้เกิดมลพิษจากควันไฟ แต่ก็มีเกษตรกรหลายรายที่นำฟางข้าวในนามาอัดก้อนส่งฟาร์มโคนม เพาะเห็ดฟาง คลุมสวนผลไม้ และเกษตรอินทรีย์
นายวีรพง เป็งแก้ว อายุ 34 ปี ชาวนา ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน ที่หันมาทำอาชีพอัดก้อนฟางขายเป็นปีแรก กล่าวว่า ในช่วงนี้ชาวนาในหลายพื้นที่ตระหนักถึงปัญหาหมอกควัน ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ทำให้ไม่ค่อยเผาตอซังข้าวเหมือนแต่ก่อน ก็จะมาติดต่อตนให้มาอัดฟางข้าวนำไปใช้ประโยชน์มากกว่าเผาทิ้ง
ตนจะรับซื้อฟางจากชาวนาในปริมาณที่อัดเป็นก้อนได้ ราคาก้อนละ 2 บาท แต่ละวันจะอัดฟางได้ถึงวันละ 100-200 ก้อน นำไปส่งให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ ในพื้นที่จังหวัดน่าน และขายปลีกตามร้านอาหาร หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มักจะมาซื้อไปตกแต่งร้าน ซึ่งหากขายในช่วงนี้เลยจะมีราคาอยู่ที่ก้อนละ 25-30 บาท สามารถสร้างรายได้ถึงวันละ 4-5 พันบาททีเดียว
“ช่วงหน้าแล้งจะเป็นช่วงที่ฟางอัดก้อนหายากมาก จึงทำให้ธุรกิจอัดฟางก้อนจำหน่าย เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้งามในช่วงนี้”
นายวีรพงเล่าต่อว่า การที่ชาวนาไม่เผาตอซังข้าว และฟางข้าวกลางแปลงนานั้นถือว่าเป็นการลดโลกร้อนได้ ประกอบกับช่วงหน้าแล้งทำให้ตนและครอบครัวสามารถหารายได้จากการอัดฟางข้าวมาเลี้ยงครอบครัวได้ และถ้าถึงฤดูทำนาก็จะไปทำนาตามเดิม