กาญจนบุรี - “ครูปรีชา” มอบทนายยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งลงโทษ ทนายตั้ม ฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีนำคลิปเสียงไปเผยแพร่และทำหาย
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายความประชาชน และทนายความทางฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ คู่กรณีของ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี ปมคดีหวย 30 ล้าน ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยระบุว่า CD คลิปเสียงครูปรีชาจำนวน 4,500 คลิป ที่ ปอท.ดึงมาจากการใช้ข้อมูลโทรศัพท์ของ ครูปรีชา กับทุกๆคู่สนทนา หาย หลังจากที่ ทนายตั้ม ขอคัดลอกคลิปเสียงในแผ่นซีดีที่ทาง ปอท.ได้จัดส่งมายังศาลเพื่อรวมไว้ในสำนวน โดย ทนายตั้ม ได้ระบุว่าหายที่บริเวณตลาดพื้นที่ตำบลตลาดกระทุ่มแบน
ล่าสุดวันนี้( 3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ครูปรีชา ที่บ้านพักเลขที่ 143/22 บ้านทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดย ครูปรีชา เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็นหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม และเป็นหลักฐานในเรื่องของคดีความ ซึ่งการที่ ทนายษิทรา ซึ่งเป็นนักกฎหมาย เป็นทนายความ นำเอาคลิปเสียงดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก และยังอ้างว่าได้ทำแผ่นซีดีคลิปเสียงดังกล่าวหายไป ตนจึงได้มอบหมายให้ นายสุพัฒน์ อดุลย์ศิริอังกูร ทนายความส่วนตัว ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้ศาลไต่สวน และมีคำสั่งลงโทษ ทนายษิทรา ฐานละเมิดอำนาจศาล ในการกระทำของ นายษิทรา ดังกล่าว ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ตนเชื่อว่า ทนายษิทรา จะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่า ได้ทำซีดีหายจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยังชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงด้วยว่า การที่ ทนายษิทรา ระบุว่า ได้นำแผ่นซีดีดังกล่าวใส่กระเป๋าไว้ ก่อนจะทำตกหล่นหายไป ก็เป็นการตอกย้ำว่า การที่ลอตเตอรี่ของตนหล่นหายนั้นเป็นเรื่องจริง และมีคนที่เก็บลอตเตอรี่ได้จริง
หากมีการนำคลิปเสียงดังกล่าวไปเผยแพร่ ก็จะต้องผ่านกระบวนการของศาล เพราะเป็นหลักฐานของกระบวนการยุติธรรม โดยต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการละเมิดศาลและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
คลิปเสียงดังกล่าว ถูกระบุว่า เป็นของตน แต่ตนยังไม่ได้ฟัง จึงไม่ทราบว่าเป็นคลิปของใครบ้าง ต้องขอฟังก่อน จึงจะตอบได้ว่าเป็นเสียงของตนหรือของใครกันแน่ ซึ่งทราบว่าทางทนายฝ่ายตนก็ได้ไปรับคลิปเสียงดังกล่าวมาแล้ว
อยากฝากบอกผู้ที่รู้ว่าตัวเองกำลังละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี ในสังคมไทยถ้ามีคนแบบนี้อยู่จำนวนมาก สังคมก็จะมีแต่ความวุ่นวาย ซึ่งความวุ่นวายไม่ได้เกิดจากฝ่ายเรา ดังนั้นขอให้คิดและทบทวนให้ดีด้วยว่า สิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นได้ละเมิดสิทธิของผู้อื่นอยู่หรือไม่ และเมื่อเราถูกละเมิด เราก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ก็จะต้องมีการฟ้องร้องกันต่อไป
หลักฐานที่ตนเตรียมไว้สำหรับต่อสู้ในชั้นศาลมีทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานที่เป็นเอกสาร และบุคคลที่เป็นประจักษ์พยาน ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และเห็นว่า ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายๆ เรื่อง บุคคลเหล่านั้นจึงพร้อมที่จะมาเป็นพยานในศาลให้ ซึ่งมีหลายคนยังไม่เคยถูกพนักงานสอบสวนสอบปากคำเลยก็มี ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่ทาง ทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ได้มาจากการลงพื้นที่ไปสอบถาม ตรวจสอบ และสำรวจด้วยตัวเอง จนได้พบกับพยานดังกล่าวที่จะมาเป็นพยานปากเอก ที่จะบอกได้ว่า เรื่องจริงคือลอตเตอรี่เป็นของตน และตนทำหล่นหายจริง
อย่างไรก็ตามจนถึงตรงนี้ตนมั่นใจว่า ลอตเตอรี่เป็นของตน อีกทั้งประจักษ์พยานยังยืนยันว่า ลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมีคนเก็บได้จริง และพยานบางคนยังเล่าให้ทนายฟังด้วยว่า ผู้ที่เก็บลอตเตอรี่ได้ยังเดินถามด้วยว่า “ลอตเตอรี่ของใครหล่น ยังไม่ออกรางวัล” ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จึงพร้อมที่จะเป็นพยาน เพราะเห็นเหตุการณ์จริง ดังนั้นทุกอย่างในสิ่งที่เรามีจริง เห็นจริง หล่นหายจริง ตนจึงพร้อมที่จะเข้าสู่ศาลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา