ประจวบคีรีขันธ์ - พบช้างป่าเพศผู้ในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ล้มกลางไร่สับปะรดหุบตาหวย บ้านวังไทร อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุด ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ รอพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ
ร.ต.อ.สมชาย ยอดดำเนินกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สามร้อยยอด ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า พบช้างตายในป่าสับปะรด บริเวณหุบตาหวย หมู่ที่ 7 บ้านวังไทร ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล รอง.ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ ผกก.สภ.สามร้อยยอด และนายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ประจวบฯ และฝ่ายปกครองอำเภอสามร้อยยอด ทหาร
โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบช้างป่าเพศผู้มีงา อายุประมาณ 5-10 ปี ล้มอยู่ในป่าสับปะรด สภาพจมอยู่ในโคลนมีแมลงวันตอมเป็นจำนวนมาก และเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบาดแผลขนาด 2x3 นิ้ว ที่ก้นด้านซ้าย ยังไม่สามารถระบุ ด้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากทั้งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ประจวบฯ และสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มาตรวจสอบ และผ่าพิสูจน์หาสาเหตุว่าช้างป่าถูกถูกทำร้าย หรือป่วย ซึ่งขณะนี้เป็นเวลากลางคืน เจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงได้ทำการกันพื้นที่ไว้เพื่อรอตรวจสอบ และให้เจ้าหน้าที่เฝ้า
จากการสอบถาม นายจารุวัฒน์ นุชศิริ พนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านในอำเภอสามร้อยยอด ว่า พบช้างป่าล้มอยู่ที่บริเวณหุบตาหวย ซึ่งอยู่ในเขตป่า ส.ป.ก. ภายในไร่ของ นายบุญเลิศ งามดี คาดว่าช้างตัวนี้น่าจะล้มมาแล้ว 2 วัน มีชาวบ้านเคยเห็นอยู่เป็นฝูงมี 7 ตัว หากินอยู่บริเวณป่าแห่งนี้ ซึ่งในช่วงหลังๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมาชาวบ้านสังเกตเห็นว่าช้างตัวดังกล่าวมีอาการเดินช้า เซื่องซึม เดินไม่ทันฝูง และเริ่มแยกตัวมาหากินตัวเดียวจนมาพบว่าล้มอยู่ในป่าสับปะรดดังกล่าว
นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นช้างป่าที่ล้มครั้งนี้อยู่ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประมาณ 1 กิโลเมตร และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร โดยรอทางสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ประจวบฯ มาตรวจสอบ และผ่าเพื่อหาสาเหตุต่อไป เบื้องต้น ได้รายงานให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับทราบในเบื้องต้นแล้ว