xs
xsm
sm
md
lg

“ชาลี ชักกุย” ลูกหมีควายแสนรู้ตายคากรงข้างที่ทำการ อช.กุยบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และฝ่ายปกครอง รุดตรวจสอบ “ชาลี ชักกุย” หมีควายแสนรู้วัย 2 ปีกว่า ตายคากรงข้างสำนักงานอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน ให้สัตวแพทย์ตรวจหาสาเหตุการตายอีกครั้ง

วันนี้ (19 ธ.ค.) นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี ได้รับรายงานว่า ชาลี ชักกุย หมีควายแสนรู้ อายุ 2 ปี 10 เดือน ตายภายในกรงเลี้ยงด้านข้างสำนักงานอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อนายอำเภอเดินทางมาถึงสำนักงานอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งบริเวณกรงที่หมีควาย แต่ไม่พบตัวหมีแต่อย่างใด ซึ่งทราบแต่เพียงว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้นำซากหมีควาย ชาลี ชักกุย ไปโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

โดย นายปณิธาน พินิตปวงชน นักวิชาการป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ผู้ดูแลหมีควาย ชาลี ชักกุย กล่าวว่า เวลาปกติจะให้อาหารหมีตั้งแต่เวลา 19.00 น.ทุกวัน เจ้าหน้าที่ก็จะนั่งดูแลกันตามปกติ หลังจากให้อาหาร และให้ยากันชักได้ประมาณ 10 นาที ก็สังเกตเห็นที่ปากหมีมีน้ำลายไหลฟูมปาก เดินกระวนกระวายรอบกรง บางครั้งก็วิ่ง ซึ่งช่วงนั้นตนสังเกตความผิดปกติจึงได้โทรศัพท์ติดต่อกับสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน ที่ดูแลหมีอยู่ และสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บอกถึงอาการ

ซึ่งสัตวแพทย์ได้ให้คอยสังเกตอาการ และแนะนำให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้เอายาแก้แพ้ให้หมีกินแต่ตนคิดว่าเพิ่งจะให้อาหาร และยาไปไม่นานคงจะลำบาก ไม่นานหมีก็หมดแรงนอนฟุบลงกับพื้นเจ้าหน้าทีเห็นจึงได้วิ่งเข้าไปที่หมีนอน ขณะนั้นมีอาการหายใจช้าลง และหยุดหายใจจึงได้ช่วยปั๊มหัวใจอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ไม่สามารถชีวิตหมีได้

จากนั้นจึงได้ปรึกษาสัตวแพทย์ ได้รับคำแนะนำให้ซากหมีมาเพื่อตรวจสอบสาเหตุการตาย เบื้องต้น หลังสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน ผ่าพิสูจน์พบว่า ที่หัวใจมีน้ำอยู่ ซึ่งอาการแบบนี้ไม่เคยพบ และที่กระเพาะอาหารมีแผล หรือสาเหตุจะตายด้วยอาการของโรคที่ไม่แสดงอาการก็น่าจะเป็นไปได้ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะนำซากหมีควาย ชักกุย มาฝังบริเวณที่อยู่ของหมีต่อไป

นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี กล่าวว่า “ชาลี ชักกุย” ที่ตายในครั้งนี้ ทราบจากทางอุทยานแห่งชาติกุบุรี แล้ว ซึ่งเป็นลูกหมีควายเพศผู้ ชาวบ้านพบ และแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ว่า พบลูกหมีควายในไร่สับปะรดหมู่ 7 บ้านพุบอน ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2558 และจึงแจ้งให้ทางแพทย์หญิงเนตรนภา วิทิตธรรมคุณ สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย มาตรวจดูอาการ และนำส่งมารักษาตัวรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวหิน และพบว่า มีอาการป่วยทางประสาท และเกิดอาการชักบ่อย หลังจากนั้น จึงนำกลับมาดูแลลูกหมีควายที่ สถานีเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทราย ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะส่งกลับไปให้ทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ดูแล และให้ยารักษาต่อจนถึงปัจจุบันนี้

“สำหรับลูกหมีควายตัวดังกล่าว หรือชาลี ชักกุย เป็นหมีความอารมณ์ดี เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์เป็นเวลานาน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ให้การดูแล มีกรงขนาดใหญ่ด้านข้างของที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความน่ารักได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงการถ่ายภาพเป็นที่ระลึก” สำหรับชื่อ “ชาลี ชักกุย” มาจากการเลียนชื่อ “ชาลี ชับปุย” นักฟุตบอลทีมชาติชื่อดัง



กำลังโหลดความคิดเห็น