เพชรบูรณ์ - เจ้าสำนักสงฆ์ฯ พร้อมผู้ดูแลหลั่งน้ำตาตามเยี่ยม “เจ้าแก้ว-หมีควายยักษ์” ถึงกรง วอนขอนำกลับไปดูแลเหมือนเดิม พร้อมสร้างกรงใหม่-กันเป็นเขตหวงห้ามป้องกันตะปบคนซ้ำ ขณะที่กำหนดฝากเลี้ยงสิ้นสุด 3 ตุลาฯ นี้
วันนี้ (5 ส.ค.) พระธเนศ ติขะณาโณ ผู้ดูแลสำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน และนางวันดี อยู่ขันสวัสดิ์ ผู้ดูแลหมูป่าและหมีควายยักษ์ของสำนักสงฆ์ฯ ได้เดินทางไปเยี่ยม “เจ้าแก้ว-หมีควายยักษ์” ที่ถูกจับขังอยู่ในกรง เนื่องจากกัดทำร้ายชาวบ้านที่มาติดต่อขอหมูป่าไปเลี้ยง พร้อมยังนำอาหาร และผลไม้ที่จะเตรียมไปให้เจ้าแก้วกินอีกด้วย
นางวันดีบอกว่า หลังจากเจ้าแก้วได้ยินเสียงตน และหลวงพี่แดง ก็แสดงอาการดีใจ จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องฮุดๆ เหมือนเสียงร้องไห้เพราะตรอมใจ จากนั้นเจ้าแก้ว พยายามยื่นมือผ่านซี่กรงเหล็กออกมา ตนจึงยื่นมือไปเพื่อแสดงการปลอบใจ แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงต้องร้องไห้ออกมา เพราะสงสาร และเป็นห่วง เนื่องจากสภาพกรงขังเจ้าแก้วอับชื้นมากหลังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
นางวันดีกล่าวว่า ยิ่งเวลามองดูแววตาของเจ้าแก้วแล้ว ก็ยิ่งรับรู้ในความรู้สึกของเขาได้ดี หากพูดได้ก็คงอยากบอกเราว่าเขาผิดอะไร อยากวอนขอความเมตตาจากผู้หลักผู้ใหญ่ หรือทางจังหวัด ขอให้เจ้าแก้วได้กลับไปอยู่ที่เดิม ซึ่งจะให้ทางวัดทำอะไร หรือปรับปรุงแก้ไขกำแพงให้สูงขึ้น แม้กระทั่งจะให้สร้างกรงใหม่ เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือจะกันเป็นเขตหวงห้าม ก็ยินดีรับทุกเงื่อนไข เพราะสงสารเจ้าแก้ว และดูแล้วหากยังอยู่ที่นี่ต่อไปเจ้าแก้วคงตรอมใจตายแน่
นางวันดีกล่าวอีกว่า ยอมรับว่าเสียใจที่เซ็นชื่อในบันทึกยินยอมส่งมอบเจ้าแก้วให้แก่ทางเจ้าหน้าที่โดยไม่ได้ดูข้อความในบันทึกก่อน เนื่องจากวันเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายจนสับสนไปหมด และยังห่วงคนเจ็บจะเสียชีวิตอีก ทางเจ้าหน้าที่ก็ขอร้องให้เซ็นชื่อ ซึ่งตนก็เข้าใจว่าแค่ส่งเจ้าแก้วไปอยู่แค่พักเดียว หลังเหตุการณ์สงบเจ้าแก้วก็จะถูกส่งกลับมาอยู่ที่เดิม ประกอบกับทางวัดฯ ได้ต่อสัญญาให้เจ้าแก้วอยู่ที่วัดต่อไป จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาภายหลัง
สำหรับเจ้าแก้ว หมีควายเพศเมีย แม้จะได้รับการเลี้ยงดูจากทางสำนักสงฆ์ฯ มาตั้งแต่เล็กหลังแม่ถูกยิงตายแล้วมีผู้นำมามอบให้หลวงปู่ละมัยเลี้ยงดู แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าสงวน ทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จึงทำการตรวจยึดเป็นของกลาง แต่เนื่องจากยังไม่มีสถานที่เลี้ยงดูที่เหมาะสม สถานีเพาะเลี้ยงฯ ใกล้เคียงอยู่ระหว่างปรับปรุง ทางกรมอุทยานฯ โดยนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ ในสมัยนั้น จึงมีบันทึกลงวันที่ 29 มี.ค. 55 ให้ความเห็นชอบฝากเจ้าแก้ว-หมีควายของกลางไว้ภายในสำนักสงฆ์ฯ ดังกล่าว เนื่องจากมีสถานที่เลี้ยงดูเหมาะสม พร้อมให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ทำสัญญาฝากเฝ้ารักษาสัตว์ป่าของกลางเป็นการชั่วคราว หากกรมอุทยานฯ จะขอรับมอบคืน ผู้รับฝากจะต้องส่งมอบหมีควายตัวนี้ให้ อย่างไรก็ตาม สัญญาฝากฯ ดังกล่าวกำหนดระยะเวลาไว้ 5 ปี โดยจะสิ้นสุดภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2560 นี้