ศูนย์ข่าวศรีราชา- ภาคภูมิใจ เลขาธิการสภากาชาดไทย มอบเสื้อกาวน์นิสิตแพทย์ให้แก่นิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ชั้นปี 4 รุ่นที่ 9 จำนวน 32 คน เพื่อเป็นกำลังใจให้นิสิตแพทย์มีความมุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ ประสบการณ์ สำเร็จการศึกษาเป็นแพทย์ที่ดีต่อไป
วันนี้ (24 เม.ย.) นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานมอบเสื้อกาวน์นิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ชั้นปีที่ 4 รุ่นที่ 9 ให้แก่นิสิตแพทย์ จำนวน 32 คน ณ ห้องประชุมลีลาวดี 1 อาคารอนุสรณ์ 100 ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จฯ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา พร้อมแขกผู้มีเกียรติ และผู้ปกครองนิสิตแพทย์เข้าร่วม
นายแพทย์ณัฐวุธ ศาสตรวาหา รองผู้อำนวยการ ศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กล่าวว่า โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ได้รับมอบหมายให้เป็นสถาบันหลักในการผลิตแพทย์ชั้นคลินิกในโครงการร่วมผลิตแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
โดยมีหน้าที่รับผิดชอบจัดการเรียนการสอนในชั้นก่อนคลินิก คือ ชั้นปีที่ 1-3 และรับผิดชอบจัดการเรียนการสอนในชั้นคลินิก ชั้นปีที่ 4-6 ซึ่งมุ่งเน้นปฏิบัติทักษะทางการแพทย์ โดยปัจจุบันมีนิสิตแพทย์สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตแพทย์ไปแล้ว 6 รุ่นๆ ละ 32 คน
สำหรับการมอบเสื้อกาวน์ในครั้งนี้ เพื่อให้นิสิตแพทย์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเสื้อกาวน์ สีขาว อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงามของวิชาชีพแพทย์ และเป็นกำลังใจให้นิสิตแพทย์มีความมุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ ประสบการณ์ เมื่อสำเร็จการศึกษาเป็นแพทย์ที่ดีต่อไปในอนาคต
ด้าน นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ จ.ชลบุรี มีสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ มีความพร้อมในการผลิตบัณฑิตแพทย์ และถือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกที่ผลิตแพทย์ให้แก่ประเทศชาติ
“ขอแสดงความยินดีต่อนิสิตแพทย์ทุกคนที่ได้ก้าวผ่านการเรียนในชั้นปีที่ 1 ถึง 3 และหลังจากนี้อีก 3 ปีข้างหน้า นิสิตแพทย์จะพบกับการเรียนการสอนในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะมีผู้เจ็บป่วยร่วมเป็นครูให้ความรู้ นอกเหนือไปจากคณาจารย์แพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำความรู้ ความสามารถไปใช้กับการทำงานในชีวิตจริงต่อไป” นายภัครธรณ์ กล่าว