เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำให้ทุกอำเภอควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด หลังสิ้นสุดระยะเวลาห้ามเผา พร้อมเตือนประชาชนดูแลสุขภาพ หลังอุตุฯ คาดการณ์จะมีลมพัดกลุ่มควันจำนวนมากเข้ามาในเชียงใหม่ และทำให้คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานอย่างรวดเร็ว
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งเตือนประชาชนชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ดูแลสุขภาพในช่วงสภาวะหมอกควันเป็นพิเศษ โดยคาดว่าอีก 1 - 2 วัน จังหวัดเชียงใหม่จะมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 10) เกินค่ามาตรฐาน
ซึ่งจากการวิเคราะห์สถานการณ์และประเมินจากทิศทางลม เนื่องจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ คาดการณ์สภาพอากาศในช่วงตั้งแต่วันที่ 21 - 23 เมษายนนี้ หย่อมความกดอากาศจะมีความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน และยังมีลมจาก 2 ทิศทาง ทั้งลมทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดพาเอาฝุ่นละอองและหมอกควัน ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดข้างเคียงเข้ามาสู่ในตัวเมืองและในหลายอำเภอ
ประกอบกับหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ เกษตรกรบางรายมีความจำเป็นต้องเตรียมพื้นที่ทางการเกษตรในช่วงนี้ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาห้ามเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนนี้ เป็นต้นไป และอาจมีการเผาในพื้นที่การเกษตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดได้มีการจัดเตรียมมาตรการควบคุมการเผาในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของจังหวัด โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งได้สั่งให้ทุกอำเภอแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบถึงตารางเวลาการบริหารจัดการเชื้อเพลิงและชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและปฏิบัติตามช่วงเวลาอย่างเคร่งครัด
หากบุคคลใดมีความจำเป็นต้องเข้าไปทำการเกษตรกรรมในพื้นที่ที่เตรียมไว้แล้ว หรือเข้าไปลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตรกรรม ขอให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่ทราบ เพื่ออนุญาตและร่วมกันควบคุม เฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดไฟจากการลดปริมาณเชื้อเพลิงในแปลงเกษตรกรรมลุกลาม ตามตารางเวลาการบริหารจัดการเชื้อเพลิงของแต่ละอำเภอ เพื่อให้เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพที่สุด