xs
xsm
sm
md
lg

สั่งสอบย้อนหลังกราวรูด 7 อดีตผู้ว่าฯ อุตรถิตถ์ สร้างด่านภูดู่ 34 ล้านทับที่ป่าสงวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ คนปัจจุบัน
อุตรดิตถ์ - พ่อเมืองอุตรดิตถ์คนปัจจุบันสั่งตั้งกรรมการสอบย้อนหลังอดีต 7 ผู้ว่าฯ หลัง สตง.ภาค 9 ชี้มูลละเมิดก่อสร้างอาคารด่านฯ ภูดู่ 34 ล้านบาททับที่ป่าสงวนโดยไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่

นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์คนปัจจุบัน กล่าวว่า เมื่อปี 2547 ผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์ขณะนั้นได้นำงบประมาณพัฒนาจังหวัดจำนวน 36 ล้านบาท และ 41 ล้านบาท นำไปดำเนินโครงการก่อสร้างอาคาร หอประชุม บ้านพัก โรงจอดรถยนต์ และอื่นๆ บริเวณด่านภูดู่ หมู่ 2 ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเป็นการรองรับการเปิดด่านให้เป็นด่านถาวร ทำการค้าขายกับแขวงไชยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว

แต่การก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังต้องการให้เป็นชุมชนใหม่ ด้วยการย้ายที่ว่าการอำเภอบ้านโคกจากที่ตั้งเดิมมาไว้ที่จุดเดียวกับด่านภูดู่ แต่ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการย้ายที่ว่าการอำเภอบ้านโคก ทำให้ไม่มีการใช้ประโยชน์ปล่อยให้เป็นอาคารร้าง ก่อนที่ อบต.ม่วงเจ็ดต้นจะเข้าใช้ทำเป็นที่ทำการ อบต.แทน

ต่อมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 9 (จ.ลำปาง) เข้าทำการตรวจสอบโครงการดังกล่าว และสรุปผลการตรวจสอบ พร้อมชี้มูลความผิดทางละเมิดเป็นเงิน 34 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้ชดใช้เงินเป็นค่าบำรุงซ่อมแซมอาคารที่แจ้งให้ผู้รับเหมาดำเนินการซ่อมแซมตามสัญญา แต่ผู้รับเหมาไม่ดำเนินการใดๆ อีก 2 ล้านบาทเศษ รวมเป็น 36 ล้านบาทเศษ

“สตง.ภาค 9 ก็มีการทักท้วงมาตลอดตั้งแต่ตรวจสอบพบความผิดทางละเมิดแล้ว มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งผมด้วย 8 คน ยังไม่มีการดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและชดใช้เงินคืนกับทางราชการ ทำให้ราชการเกิดความเสียหาย”

ล่าสุดเมื่อปี 2560 สตง.ภาค 9 ลำปางก็มีหนังสือทักท้วงมาอีกครั้ง แต่ไม่ทราบว่ามีการดำเนินการอย่างไรไปบ้าง เมื่อตนเห็นเรื่องจึงหยิบขึ้นมาดำเนินการเพื่อไม่ให้มีความผิดทางละเมิด คือ การปล่อยปละละเลยไม่ยอมดำเนินการตามที่ สตง.ชี้มูลความผิด

โดยแต่งตั้งคณะกรรมการ มีคลัง จ.อุตรดิตถ์เป็นประธานฯ สอบสวนความผิดทางละเมิด 7 อดีตผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์ แต่ตอนนี้คณะกรรมการยังไม่สรุปผลว่ามีใครบ้างที่จะต้องรับผิดชอบความผิดทางละเมิด และจำนวนเงินที่เกิดความเสียหายจากการดำเนินการก่อสร้างอาคาร ซึ่งความเสียหายอาจจะไม่ตรงกับ สตง.ภาค 9 ลำปาง แจ้งมาก็เป็นได้

นายเสฐียรพงศ์กล่าวอีกว่า การที่ตนตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนอดีตผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ทั้ง 7 คนอีกครั้งเพียงเพราะต้องการให้เรื่องจบเร็วๆ เชื่อว่าอดีตผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ทั้ง 7 คนคงเข้าใจและไม่ตำหนิ เพราะหากตนไม่ดำเนินการอะไรก็จะมีความผิดทางละเมิดไปด้วยที่ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการตามที่ สตง.ภาค 9 ลำปาง ชี้มูลความผิดมา

“เมื่อเกิดเรื่องแล้วก็ต้องทำเรื่องให้จบโดยเร็วด้วยความโปร่งใส ไม่อยากเกษียณอายุราชการไปแล้วต้องมามัวหมองเพราะเรื่องแบบนี้โดยเด็ดขาด”

นายเสฐียรพงศ์กล่าวว่า ตนเข้ามาแก้ปัญหาให้กับอดีตผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ 7 คน ส่วนใครจะต้องรับผิดชอบอย่างไร มากน้อยแค่ไหนก็ต้องรอคณะกรรมการที่มีคลัง จ.อุตรดิตถ์เป็นประธานฯ สรุปผลอีกครั้ง ผิดถูกก็ว่ากันตามนั้น ซึ่งความผิดที่ต้องดำเนินการนั้นมี 3 ส่วน คือ วินัยซึ่งอาจจะแค่ตักเตือน ความผิดทางแพ่งคือชดใช้เงินคืนแก่ทางราชการ ส่วนอาญานั้นก็ขึ้นอยู่ที่เจตนาว่ามีเจตนาหรือไม่มีเจตนาที่จะทำผิด


กำลังโหลดความคิดเห็น