ศูนย์ข่าวศรีราชา- อุกอาจ!! คนร้ายต่างชาติฉายเดี่ยวบุกชิงเงินสด 7แสนบาท จากพนักงานตู้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ริมถนนนาจอมเทียน อ.สัตหีบ ซ้ำชกหน้าพนักงานสาวจนสลบ ก่อนขี่ จยย.หนีลอยนวล เบื้องต้นกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน เชื่อเป็นชาวรัสเซีย ตร.เร่งตามตัวดำเนินคดี
วันนี้(14 เม.ย.)ร.ต.อ.หญิง รศิตา เณรพงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์เป็นเงินเกือบ 7 แสนบาท ภายในตู้รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ CERRENCY EXCHANGE ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามโรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้จอมเทียน ม.2 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ,พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน และชุดสืบสวน ได้ลงพื้นตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และภายในตู้รับแลกเงินมี น.ส.สุนีย์ แก้วอยู่ อายุ 30 ปี เป็นพนักงานดูแล และได้รับบาดเจ็บจากการถูกคนร้ายชกต่อยที่บริเวณใบหน้าหลายครั้ง จนมีอาการปูดบวม และคิ้วแตก ซึ่งเบื้องต้นได้ถูกนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา
พล.ต.ต.เชษฐา เผยว่าคดีชิงทรัพย์ในครั้งนี้ ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ เนื่องจากคนร้ายฉายเดี่ยวและมีการเตรียมการเป็นอย่างดี ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในตู้ ซึ่งสามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน โดยคาดว่าคนร้ายเป็นชายชาวรัสเซีย เนื่องจากมีรูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 175-180 เซ็นติเมตร สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ และสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ
โดยใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กร-2825 ชลบุรี เป็นพาหนะในการก่อเหตุ และยังพบว่าได้จอดรถบริเวณด้านหน้าตู้แลกเงินและเฝ้ารอเวลา กระทั่งผู้เสียหายเข้ามาเปิดประตูร้าน จึงเดินตามเข้าล็อกคอผู้เสียหายก่อนชกรัวเข้าที่ใบหน้า รวม 13 หมัด จนสลบ และชิงกระเป๋าเป้ใส่เงินสดเกือบ 7 แสน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีลอยนวล
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามหาเบาะแส จนทราบว่าคนร้ายรายนี้ อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดุสิต 2 จึงเข้าทำการปิดล้อมบ้านต้องสงสัย แต่พบเพียงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนคนร้ายยังหลบหนี อย่างไรก็ตามจะได้ประสาน สภ.พื้นที่ข้างเคียง สกัดเส้นทางหลบหนีที่คาดว่าคนร้ายยังไปได้ไม่ไกล และจะเร่งติดตามตัวมาดำเนิาคดีให้ได้โดยเร็ว
ล่าสุด ในวันเดียวกันเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้าย ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมของกลางเงินสดประมาณ 7 แสนบาท เบื้องต้น ได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวน เพื่อหาชนวนเหตุถึงแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุ และหาผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้