xs
xsm
sm
md
lg

คนลำปางสวดยับ ผู้จัดเชิญ “อุ๊บ-วิริยะ” ตัดสินเทพบุตร-ธิดาสลุงหลวงซ้ำ ทั้งที่แต่งหวิวขึ้นเวทีมาแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลำปาง - ชาวลำปางเริ่มรุมสวดสนั่นโซเซียลฯ หลังผู้จัดงานประกวดเทพบุตร-เทพธิดาสลุงหลวง นำ “อุ๊บ-วิริยะ” เป็นกรรมการซ้ำอีก ทั้งที่ปีก่อนแต่งหวิวขึ้นเวทีจนชาวบ้านรับไม่ได้รุมสวดยับมาแล้ว แม้เจ้าตัวจะกล่าวขอโทษโดยอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม


วันนี้ (11 เม.ย.) ชาวลำปางเริ่มแสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียกันอย่างมากมาย หลังผู้จัดงานประกวดเทพบุตร-เทพธิดาสลุงหลวง นำ “อุ๊บ-วิริยะ” มาเป็นกรรมการตัดสินอีกครั้ง ทั้งที่ปีที่ผ่านมาแต่งกายด้วยชุดวาบหวิวขึ้นเวทีประกวดจนชาวลำปางรับไม่ได้ รุมสวดผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กชาวลำปางกันอย่างหนัก หลายคนได้ออกมาตั้งกระทู้และคอมเมนต์วิจารณ์กันสนั่นโลกโซเชียลฯ แต่ขณะนั้นเจ้าตัวระบุว่าเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แต่สุดท้ายเมื่อกระแสร้อนแรงขึ้น จึงออกมากล่าวว่าขอโทษ

ขณะที่นายกเทศมนตรีนครลำปางก็ได้ออกมากล่าวขอโทษแทนกองประกวด และบอกว่าไม่สามารถบังคับการแต่งกายของกรรมการได้เพราะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อการจัดงานลักษณะนี้ถือเป็นอัตลักษณ์ของชาวลำปาง การเข้ามาเป็นกรรมการก็ต้องรู้จักกาลเทศะในเรื่องเหล่านี้ หากกรรมการไม่สามารถตอบได้ก็ไม่ควรให้มาเป็นกรรมการ ในเรื่องนี้นายกเทศมนตรีไม่ขอออกความเห็นบอกเพียงว่าจะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

แต่ปรากฏว่าในปีนี้ อุ๊บ-วิริยะ ก็ได้รับเชิญให้มาเป็นคณะกรรมการอีกเป็นครั้งที่ 4 เพื่อร่วมตัดสินเทพบุตร และเทพธิดาสลุงหลวงของ จ.ลำปาง ซึ่งระหว่างเป็นกรรมการคัดเลือกเทพบุตรเทพธิดาสลุงหลวงในรอบคัดเลือก อุ๊บ-วิริยะ ได้ยกมือไหว้และกล่าวขอโทษต่อชาวลำปาง

อุ๊บ-วิริยะ บอกว่าผิดไปแล้ว จึงอยากขอโทษชาวลำปาง ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นการกระทำที่เผอเรอ ซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์และถูกตำหนิตนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ในปีนี้เมื่อมีโอกาสได้มาร่วมเป็นคณะกรรมการจะขอโอกาสแก้ตัว ซึ่งในครั้งนี้มาในชุดเรียบร้อย

สำหรับกิจกรรมการประกวดนั้นถือว่าเป็นประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวลำปางมาช้านาน และเป็นงานกิจกรรมที่ชาวลำปางรัก และหวงแหน ดังนั้นในปีนี้จึงตั้งใจอยากจะมาแก้ตัว มาเพื่อให้ชาวลำปางได้ทราบว่าพี่อุ๊บสำนึกแล้ว

“ตอนแรกที่มีคนอินบอกซ์เข้ามาด่าก็รับไม่ได้โกรธมาก แต่ต่อมาสำนึกได้ก็ใช้เหตุผลมากขึ้น รู้ว่าทุกคนก็รักบ้านของตัวเองใครมาย่ำยีก็ต้องปกป้องหวงแหนเป็นธรรมดา เราก็เห็นว่าไม่ร้ายแรงอะไร เมื่อผิดไปแล้วก็แก้ไขและทำให้ดีขึ้น ก็ได้เรียนรู้ว่าเวลาจะไปไหนเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม ต้องดูขนบธรรมเนียมของเขาและเคารพสิ่งที่เขามี”










กำลังโหลดความคิดเห็น