นครพนม - เตรียมเปิดสวนจัดงานลิ้นจี่ริมโขง ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม รับนักท่องเที่ยว เสริมบรรยากาศท่องเที่ยวสงกรานต์ให้คึกคัก เผยจากอาชีพทำสวนเศรษฐกิจพอเพียงได้โกอินเตอร์ส่งออกไกลถึงประเทศจีน โกยเงินปีละ 100 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้บรรยากาศการเตรียมพร้อมเทศกาลสงกรานต์เพื่อรองรับประชาชน นักท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก หลายหน่วยงานต่างเร่งเตรียมพร้อมในการจัดสถานที่ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากสถานที่สำคัญ อาทิ ถนนข้าวปุ้น ในเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงถนนวัฒนธรรมผู้ไทย อ.เรณูนคร และวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ที่ตั้งองค์พระธาตุพนม
ยังมีพื้นที่สวนเกษตรลิ้นจี่ขึ้นชื่อของเกษตรกรริมฝั่งแม่น้ำโขง ในพื้นที่ ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ที่เป็นไฮไลต์ สร้างความสนใจให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมกันคึกคักทุกปี
เช่นเดียวกับปีนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลขามเฒ่าได้ร่วมกับหน่วยงานภาคเกษตร และชุมชน เตรียมพร้อมเปิดสวนลิ้นจี่พันธุ์พื้นเมืองขึ้นชื่อ นอพอ 1 หรือย่อมาจาก นครพนม 1 (นพ.1) ซึ่งถือเป็นลิ้นจี่สายพันธุ์พื้นบ้านที่มีการทดลองปลูกในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงมานานกว่า 30 ปี ทำให้มีการพัฒนา ขยายพื้นที่ปลูกมากกว่า 1,000 ไร่ มีลิ้นจี่มากกว่า 20,000 ต้น
กลายเป็นผลผลิตการเกษตรที่ขึ้นชื่อ เป็นที่ยอมรับของตลาดผลไม้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพราะเป็นลิ้นจี่สายพันธุ์ที่มีความอร่อย รสชาติเปรี้ยวอมหวาน กรอบ ลูกโต
ทำให้ปัจจุบันมีพ่อค้าจากจีนมาสั่งจองรับซื้อสร้างรายได้ ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจึงได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลลิ้นจี่ขึ้น ปีนี้จัดระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. 61 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ชิมรสชาติของผลผลิตลิ้นจี่ขึ้นชื่อของ จ.นครพนม เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดให้ชาวสวน เนื่องจากในช่วงนี้จะเป็นฤดูการเก็บผลผลิตลิ้นจี่ออกสู่ตลาด
ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมการปลูก การจัดจำหน่ายลิ้นจี่ราคาถูก ไปจนถึงการนำนักท่องเที่ยวเที่ยวชมสวนลิ้นจี่ และรับประทานลิ้นจี่สดๆ จากสวน เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ควบคู่กับงานประเพณีสงกรานต์
นายวีรเดช ซามาตร นายก อบต. ขามเฒ่า อ.เมือง เล่าถึงความสำเร็จของเกษตรกรในพื้นที่ว่า ต.ขามเฒ่าถือเป็นพื้นที่แห่งเดียวของ จ.นครพนม ที่มีการปลูกลิ้นจี่มานานกว่า 40 ปี ซึ่งเริ่มลองผิดลองถูกมาจากพันธุ์พื้นบ้าน และมีการเพาะปลูกไว้กินในครัวเรือน จนมีการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มาถึงปัจจุบัน มีจุดเด่นคือ มีรสชาติอร่อย ผลดก ลูกโต เนื้อเยอะ รสชาติจะออกเปรี้ยวอมหวาน และมีความแข็งแรงต่อสภาพอากาศ ให้ผลผลิตดี
ทุกปีในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่เก็บผลผลิตลิ้นจี่ส่งออกขาย มีพ่อค้าแม่ค้าทั้งในประเทศ ปัจจุบันกลายเป็นที่ยอมรับของตลาดประเทศเพื่อนบ้าน มีพ่อค้า แม่ค้าชาวจีนมารับซื้อไม่อั้น มีราคาซื้อขายกิโลกรัมละประมาณ 100-120 บาท สร้างเงินหมุนเวียนสะพัดปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ในส่วนของ อบต.ขามเฒ่า ได้มีการสนับสนุนส่งเสริมในเรื่องของต้นกล้าพันธุ์ รวมถึงนำเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลส่งเสริมต่อเนื่องให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก เพิ่มผลผลิตทุกปี รวมถึงการดูแลให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ลดต้นทุน และปลอดสารพิษ นอกจากนี้ยังได้มีการส่งเสริมจัดงานเทศกาลลิ้นจี่ขึ้นทุกปีในช่วงวันสงกรานต์ เพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงเพิ่มช่องทางการตลาด และส่งเสริมเพิ่มมูลค่าการผลิตทั้งจำหน่ายผลลิ้นจี่
รวมไปถึงจำหน่ายต้นกล้าพันธุ์ลิ้นจี่ เป็นการสร้างรายได้มากขึ้น ถือเป็นอาชีพเกษตรที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดีไม่แพ้การเกษตรด้านอื่นๆ และจะมีการส่งเสริมเพิ่มพื้นที่ปลูกต่อเนื่อง และในอนาคตเชื่อมั่นว่าจะกลายเป็นลิ้นจี่ที่ยอมรับของตลาดอาเซียน
