ตาก - รองผู้ว่าฯเมียวดี นำญาติแรงงานเมียนมา เหยื่อไฟคลอกดับคารถบัสกลางดอยเส้นทางสายแม่สอด - ตาก ข้ามฝั่งพิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมนิมนต์พระพม่าทำพิธีเชิญวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้านเกิด
วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอูซี่ตู่เชง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี และ นายเตนหน่าย หัวหน้าแรงงานเมียวดี และพระสงฆ์เมียนมา 5 รูป ได้ประสานงานผ่าน พ.อ.อาสาฬหะ พูนสุวรรณ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทยส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี) ฝ่ายไทย
เพื่อนำญาติของแรงงานเมียนมา ซึ่งประสบเหตุถูกไฟคลอกเสียชีวิตบนรถบัสหมายเลขทะเบียน 10 - 3824 นครสวรรค์ บริเวณถนนสายเอเชีย 12 หลักกิโลเมตรที่ 60 ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา รวมถึง 20 ศพ เดินทางข้ามจากจังหวัดเมียวดี ทางผ่านสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 1 ท่าสายลวด อ.แม่สอด เพื่อเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก จึงได้ใช้รถนำขบวนช่วยอำนวยความสะดวก นำคณะรองผู้ว่าฯเมียวดี พร้อมญาติแรงงานเมียนมา เหยื่อเหตุสลดดังกล่าว เดินทางจากชายแดนแม่สอด ไปยัง สภ.แม่ท้อ
เมื่อญาติแรงงานเมียนมา และผู้ติดตามทั้งหมดเดินทางไปถึง สภ.แม่ท้อ เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองเฉพาะญาติผู้เสียชีวิต ไปสอบถาม และเก็บดีเอ็นเอ ชุดละ 5 คนและดำเนินการทางเอกสารกับทางบริษัทประกันภัยซึ่งทาง คปภ. ยืนยันจ่ายให้แก่ผู้เสียชีวิต รายละ 300,000 บาท เนื่องจากเหตุไฟไหม้ดังกล่าวเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถ ที่จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดภัยขึ้นบนรถเป็นความผิดละเมิดก่อให้เกิดความเสียหาย ทำให้มีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้ประสานงานไปยังทางผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ให้เชิญญาติผู้เสียชีวิต มาให้ปากคำและดำเนินการเก็บ DNA ยืนยันความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิต
ซึ่งจากนี้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะนำ DNAของญาติผู้เสียชีวิต ส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ดำเนินการตรวจเปรียบเทียบกับผู้เสียชีวิตต่อไป คาดว่า จะทราบผลในเร็ววัน เมื่อทราบผลแล้วจะส่งผลการตรวจทั้งหมดมาให้ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ดำเนินการในขั้นต่อไปส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมดทางจังหวัดตาก โดย นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ
ส่วนของการตรวจอัตลักษณ์บุคคล ขณะนี้ทางสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนจนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เนื่องจากศพมีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เมื่อเสร็จแล้วทางสถาบันนิติเวชก็จะเดินทางไปรับศพพร้อมผลดีเอ็นเอ และนำศพกลับมาพักรอญาติมารับศพนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดในประเทศเมียนมาต่อไป
นางโดอีซู อายุ 65 ปี มารดาของนางสาวซูซูหมุ่ย(Cho Cho Hmawe) อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตเปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้า ว่า ตนมีลูกทั้งหมด 4 คน เป็นหญิง 2 ชาย 2 นางสาวซูซูหมุ่ย เป็นบุตรคนที่ 3 ก่อนหน้านี้ ลูกๆ ของตนได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย ส่วน นางสาวซูซูหมุ่ย เพิ่งจะเดินทางเข้ามาทำงานในไทยครั้งแรก แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตก่อนที่จะได้ทำงาน
“รู้สึกเสียใจ และยังทำใจไม่ได้ กับการที่ลูกต้องจากไปอย่างกะทันหัน ถึงแม้ทางการไทยจะมีเงินเยียวยาให้จำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการสูญเสียได้”
ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่บริเวณลานจอดรถข้าง สภ.แม่ท้อ นายอูซี่ตู่เชง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทางการเมียนมา และญาติผู้เสียชีวิตรวม 70 คน ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์เมียนมา ที่เดินทางมาด้วย 5 รูป ประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทั้ง 20 ราย กลับบ้านที่ประเทศเมียนมา ท่ามกลางบรรดาที่เศร้าโศกที่ต้องมาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
