นครพนม - รวบ 2 ชาวลาวเครือข่ายค้ากัญชาฝั่งลาว อุกอาจมากขนข้ามโขงนัดส่งสินค้ากันฝั่งหน้าจวนผู้ว่าฯ ยึดของกลางกัญชาอัดแท่ง 5 กระสอบหนักกว่า 200 กิโลกรัม สารภาพรับจ้างคนละ 5,000 บาท
วันนี้ (27 มี.ค.) เวลา 09.30 น. หน้าอาคารแสงสิงแก้ว กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (บก.ภ.จว.ฯ) นายดำรง สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.อ.เถลิงศักดิ์ มูลประดับ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) พ.ต.ท.นิธิวัชร์ ดิลกพงศ์โยธิน รอง ผกก.ตม.ฯ ร.ต.ท.นวพล ขวัญทอง รอง สว.ตำรวจน้ำฯ และทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) จำนวน 209 กิโลกรัม
โดยจับกุมตัวได้บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด (หลังเก่า) ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ผู้คนพลุกพล่าน มีบ้านพักข้าราชการหลายหน่วยงานตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ฯ) และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม (นรข.) ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติดลักลอบนำกัญชาเข้ามาในประเทศไทย คาดว่าจะนำขึ้นฝั่งในเขตชุมชนเทศบาลเมืองนครพนม
ครั้งแรกชุดจับกุมคิดว่าการข่าวคลาดเคลื่อน เพราะตลอดพื้นที่ของเทศบาลเมืองนครพนมนั้นมีบ้านเรือนชาวไทยเชื้อสายเวียดนามอยู่หนาแน่น
หากจะขนขึ้นฝั่งจริงจะต้องลักลอบมากองไว้บริเวณที่ว่าง โดยเฉพาะหน้าบ้านพักข้าราชการ จึงร่วมกันวางกำลังดักซุ่มตลอดแนวต้องสงสัย บางส่วนเป็นหน่วยเคลื่อนที่นอกเครื่องแบบ ออกตรวจพื้นที่จุดเสี่ยงริมฝั่งแม่น้ำโขง
จนกระทั่งเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือแล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนส่อง พบเรือต้องสงสัยดับเครื่องกลางแม่น้ำโขง เห็นชาย 3 คนภายในเรือช่วยกันพายเรือเข้าฝั่งมาที่ท่าน้ำธรรมชาติบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการหลังเก่า เจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวเป็นชายเร่ร่อนจึงเข้าแสดงตนเพื่อจับกุม
แต่บุคคลทั้ง 3 ทิ้งใบพายกระโจนขึ้นฝั่งวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่สกัดดักจับกุมไว้ได้สองคน ส่วนอีกคนหนึ่งสามารถหลบหนีไปได้ ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ ท้าวดวงใจ หรือก๊ะ ไชยนคร อายุ 27 ปี และ ท้าวสมพร หรือพอน สมสนุก อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นราษฎรแขวงคำม่วน สปป.ลาว
ตรวจสอบบริเวณท่าน้ำพบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 5 กระสอบ ตรวจนับได้ 209 แท่ง (ประมาณ 209 กิโลกรัม) มูลค่ายาเสพติดประมาณ 1.6 ล้านบาท และเรือกีบ จำนวน 1 ลำ
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าท้าววงว่าจ้างให้ขนกัญชามาส่งให้พ่อค้าชาวไทยที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งตนทั้งคู่รู้ว่าแถวนั้นเป็นแหล่งชุมชนหนาแน่น จึงบอกให้ท้าววงเปลี่ยนสถานที่ส่งเพราะเสี่ยงเกินไป แต่ท้าววงบอกว่าตรงไหนอันตรายที่สุดคือสถานที่ปลอดภัยที่สุด ได้ค่าจ้างคนละ 5,000 บาท แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมเสียก่อน ส่วนผู้ที่หลบหนีไปได้ก็คือท้าววง ผู้ว่าจ้างนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการจับกุมนั้นมีรถยนต์เก๋งคันหนึ่งจอดติดเครื่องอยู่หน้าป้ายจวนผู้ว่าฯ แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่กรูไปจับผู้ต้องหารถยนต์คันดังกล่าวรีบเร่งเครื่องขับหลบหนีออกไปทันที
เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีส่วนพัวพันกับขบวนการนี้หรือไม่ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยผิดกฎหมาย” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป