นครพนม - จ.นครพนมตรวจยึดยาบ้าบิ๊กล็อตมากถึง 11 ล้านเม็ด มากสุดเท่าที่เคยจับยึดได้ในภาคอีสาน มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท เผยขนมากับเรือขนาดใหญ่สร้างจากเหล็กทั้งลำ ปกติใช้ลำเลียงรถยนต์ ภายในเรือมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งมากว่า 20 คน แต่พอจวนตัวกระโดดลงน้ำโขงหมด ถูกจับได้แค่คนเดียวเพราะว่ายน้ำไม่เป็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 ม.ค.) เวลา 15.00 น. บริเวณกองบัญชาการ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) พล.ร.ท.ชาติชาย ศรีวรขาน รองเสนาธิการทหารเรือ พล.ท.ธนากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พล.ต.ท.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าฯ นครพนม พล.ร.ต.พิสิษฐ์ ทองดีเลิศ ผบ.นรข. กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ฝ่ายปกครอง ตชด.237 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม กทม. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาบ้าจำนวน 11,100,000 ล้านเม็ด ซึ่งถือเป็นยาบ้าบิ๊กล็อตที่มีจำนวนมหาศาลที่สุดในภาคอีสาน
เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จึงได้แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และสั่งการให้ น.ท.อดิศักดิ์ ภานุโรจนากร หัวหน้าสถานีเรือนครพนม สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมกันออกลาดตระเวนตามจุดเสี่ยงที่คาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะนำขึ้นฝั่ง
ต่อมาตามเวลาดังกล่าวได้ยินเสียงเรือกำลังแล่นมาจากบ้านใหม่ห้วยกะวะฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตรงข้ามกับบ้านพนอมท่า หมู่ 3 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จึงได้ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนส่อง พบเรือขนาดใหญ่ที่สร้างจากเหล็กทั้งลำ ส่วนมากจะใช้ในการขนลำเลียงรถยนต์ข้ามชาติ กำลังแล่นเข้ามายังฝั่งไทย ภายในเรือมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งมาประมาณ 20 คน
จึงส่งสัญญาณแจ้งไปยังหน่วยลาดตระเวนที่กำลังดักซุ่มว่าเรือต้องสงสัยล่องไปตามแม่น้ำโขง ผ่านไปยังบ้านนาหนองบก ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ซึ่งเป็นรอยต่อกับบ้านพนอมท่า ให้เตรียมพร้อมเข้าสกัดเรือต้องสงสัยลำดังกล่าว เมื่อใกล้จะถึงฝั่งเรือเหล็กได้ดับเครื่องยนต์ แล้วชายฉกรรจ์ใช้ไม้พายนำเรือเฝ้าเทียบฝั่งที่บริเวณท้ายหมู่บ้านนาหนองบก หมู่ 4 ต.ไชยบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน บางจุดเปลี่ยวและรกไม่ค่อยมีผู้คนสัญจร เพราะห่างไกลจากชุมชน
เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่รอจนเรือแล่นเข้ามาชิดติดฝั่ง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น กลุ่มชายบนเรือตกใจต่างกระโดดลงแม่น้ำโขงว่ายหลบหนีไปคนละทิศละทางหายไปกับความมืด แต่สามารถจับผู้ต้องสงสัยเป็นชายได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายวัยชัย แสงมณี อายุ 17 ปี เป็นราษฎรชาวลาว เหตุที่ไม่ยอมกระโดดน้ำหนีเพราะว่ายน้ำไม่เป็น
จึงควบคุมตัวและรีบนำเรือที่บรรทุกสิ่งต้องสงสัยออกจากบริเวณดังกล่าวด้วยเกรงว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอีกชุดมีอาวุธแอบซุ่มมาทำร้ายเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นระบุว่าเป็นวัตถุสีดำพันเทปสีแดงและสีฟ้าคล้ายกระสอบกัญชา จำนวน 37 กระสอบ นำไปขึ้นฝั่งที่หน้าวัดโพธิ์ ต.ไชยบุรี เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อเปิดถุงพลาสติกสีดำพบภายในไม่ใช่กัญชาอย่างที่คิด เพราะมีกระดาษไขสีเหลือง มีตราตองเก้า (999) เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มว้าแดงในประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือนิยมใช้กันประทับบนห่อ จึงทราบว่าเป็นยาบ้าบิ๊กล็อตนำไปตรวจนับมีจำนวนมากกว่า 11 ล้านเม็ด
หากซื้อขายตามแนวตะเข็บชายแดนเม็ดละ 200 บาท มีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านบาท หากทะลุเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในจะมีราคาเพิ่มอีกเป็นเม็ดละ 250-300 บาท
ส่วนนายวันชัยสารภาพว่ารับจ้างจากนายทุนให้เป็นคนขนขึ้นฝั่งพร้อมเพื่อนอีก 20 กว่าคน ในราคาคนละ 4,000 บาท จึงตั้งข้อหานำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) มาในราชอาณาจักร มีโทษประหารชีวิต ก่อนจะนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับยาบ้าจำนวนมหาศาลกว่า 10 ล้านเม็ดนี้ สันนิษฐานว่าน่าจะขนลำเลียงมาจากภาคเหนือของไทย เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ขบวนการค้ายาเสพติดจึงเบนมายังพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน โดยใช้จังหวัดนครพนมเป็นสถานที่ลำเลียง ก่อนหน้านี้มีการจับกุมยาบ้ามาแล้วจำนวน 4,600,000 เม็ด คราวนั้นถือว่ามีจำนวนมากที่สุดในจังหวัดนครพนม
ครั้งล่าสุดจับกุมได้กลับมีจำนวนมากขึ้นอีกเท่าตัว และมากที่สุดในภาคอีสาน ซึ่งทางหน่วยงานความมั่นคงจะต้องเข้มงวดในการตรวจตราจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป