หนุ่ม ป.ตรีอ้างกรีดยางเงินไม่พอเลี้ยงลูกเมีย หันร่วมแก๊งยานรกขนเข้าไทย

นครพนม - รวบหนุ่มจบ ป.ตรีรับจ้างหิ้วยาบ้าเข้ามาส่งเครือข่ายและขายฝั่งไทย อ้างรับจ้างกรีดยางเงินไม่พอเลี้ยงลูกเมีย ขณะที่นายอำเภอท่าอุเทนคนใหม่ขึงขัง เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านชุมชนติดน้ำโขง ถามจี้ใจดำ ยาบ้า กัญชาทะลักชายแดนรายวันไม่รู้ไม่เห็นกันอย่างไร ขู่คาดโทษหากยังเพิกเฉยไม่ร่วมมือสกัดกั้น

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ทำการอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ว่าที่ ร.ต ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก.สภ.ท่าอุเทน พ.ต.ต.ศักดิ์ชัย บุญภิโย ผบ.ร้อย.ตชด.237 น.ท.กริช กองศรี หัวหน้าสถานีเรือ นรข.อ.บ้านแพง ร.ท.ประวิทย์ อุ่นกระโทก ผู้บังคับหมวดชุดเฉพาะกิจ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร.อ.วรยุทธ คำสี ผบ.ร้อย.ทพ.2107 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นรข. ฝ่ายปกครอง ชุดปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวจับกุม นายพิสิทธิ์ เกตสิมมา อายุ 37 ปี บ้านเหล่าสวนกล้วย ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า 2,068 เม็ด

การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาบ้านำเข้ามาจากฝั่งประเทศลาวเพื่อขายให้นักเสพฝั่งไทย จึงได้สนธิกำลังวางแผนลงพื้นที่ลาดตระเวนในพื้นที่จุดเสี่ยงตามแนวเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง โดยเฉพาะบ้านเหล่าสวนกล้วย ต.หนองเทา ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายของแหล่งซ่องสุมอันโด่งดัง ทั้งยาเสพติดหรือไม้พะยูง และรถยนต์ข้ามชาติ

จนกระทั่งเวลาโพล้เพล้ของวานนี้ (8 มิ.ย.) พบชายต้องสงสัยคนหนึ่งเดินลงไปริมฝั่งแม่น้ำโขง ก้มลงหยิบวัตถุไม่ทราบขนาดใส่กระเป๋าแล้วเดินขึ้นฝั่งเข้าไปในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มดูพฤติการณ์ได้แสดงตัวขอตรวจค้น ชายคนดังกล่าวตกใจรีบวิ่งหนี และปาวัตถุที่เพิ่งหยิบมาทิ้งเข้าป่าข้างทาง แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่วิ่งไล่ติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้

ทราบชื่อคือ นายพิษสิทธิ์ เกตสิมมา และพาตัวไปบริเวณที่ทิ้งวัตถุดังกล่าว พบว่าเป็นห่อกระดาษไขข้างในมีถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 10 ถุง ภายในมียาบ้า ตรวจนับได้จำนวน 2,068 เม็ด จึงนำนายพิษสิทธิ์ ผู้ต้องหา พร้อมของกลางไปที่ทำการอำเภอท่าอุเทนเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า เรียนจบ ป.ตรี สาขาบริหารจากสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ต่อมาได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศประมาณ 2 ปี กลับมาอยู่บ้านได้ระยะหนึ่ง ชอบพอกับหญิงสาวชาวลาว ตกลงแต่งงานอยู่กินกัน โดยส่วนใหญ่ตนจะใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาที่ฝั่งลาวด้วยการรับจ้างกรีดยางแต่รายได้ไม่พอใช้จ่าย

จังหวะเดียวกันมีนายทุนมาติดต่อให้เป็นคนส่งยาบ้า ทำหน้าที่ส่งให้ลูกค้าตามจุดนัดหมาย หรือเป็นคนเดินยา หลังเสร็จงานรับเงินค่าจ้างครั้งละประมาณ 5,000-10,000 บาท ทำมาประมาณ 2-3 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับดังกล่าว

กระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะทางการข่าวมีข้อมูลว่าผู้ต้องหารายนี้ทำมาหลายครั้ง พร้อมได้ทำบันทึกจับกุมนำส่ง สภ.ท่าอุเทนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุอีกว่า สำหรับ ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน เพิ่งย้ายมาจาก อ.สระใคร จ.หนองคาย เข้ารับตำแหน่งไม่นานนี้เอง เมื่อไม่นานมานี้ได้เรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านประชุม มีช่วงหนึ่งได้สอบถามกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการขนลำเลียงยาเสพติดทั้งยาบ้าและกัญชาเป็นเวลาช้านาน นอกจากนี้ยังมีไม้พะยูงที่ลักลอบส่งขายประเทศเพื่อนบ้านอีก

แต่ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านคนไหนตอบคำถามนายอำเภอได้ จึงถูกตำหนิกลางที่ประชุมถึงการปล่อยเกียร์ว่าง ทำให้มีการนำเข้าสิ่งเสพติดเข้ามาทำร้ายคนไทย ขาดจิตสำนึกในการเป็นผู้นำที่ดี อนาคตจะมีการพิจารณาผลงาน หากหมู่บ้านไหนเพิกเฉยต่อเรื่องเหล่านี้จะแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

สำหรับพื้นที่ จ.นครพนม จากสถิติการจับกุมตรวจยึดพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วงปี 2558 ตรวจยึดกัญชา 5,695 กิโลกรัม หรือ 5 ตันครึ่ง ยาบ้า จำนวน 1.7 แสนเม็ด เข้าสู่ปี 2559 ตรวจยึดกัญชา จำนวน 3,775 กิโลกรัม หรือ 3 ตันครึ่ง ยาบ้า จำนวน 3.2 แสนเม็ด และในช่วงต้นปี 2560 ถึงปัจจุบันตรวจยึดกัญชามากถึงเกือบ 4,000 กิโลกรัม และยาบ้ามากถึง 3 แสนเม็ด

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้เพิ่มมาตรการเข้มในการป้องกันปราบปรามสกัดกั้นตามพื้นที่แนวชายแดน ซึ่งได้สนธิกำลังจากหน่วยต่างๆ ร่วมกันวางแผนตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติดต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะมีการลักลอบนำเข้าจำนวนมาก