xs
xsm
sm
md
lg

นาทีชีวิต! ทหารส่ง ฮ.ช่วยเด็กแรกเกิด แม่วัยสาวคลอดก่อนกำหนด-ไส้ไหล ไร้ผนังหน้าท้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตาก/พิษณุโลก - กองกำลังนเรศวรส่งเฮลิคอปเตอร์บินช่วยชีวิตทารกแรกเกิดไส้ไหล-ไร้ผนังหน้าท้อง หลังแม่ชาวอุ้มผางวัย 16 ปีคลอดก่อนกำหนด นำส่งรักษาต่อ รพ.พุทธชินราชกันสุดระทึก พบเด็กหยุดหายใจ 2 รอบ ต้องปั๊มหัวใจกลางอากาศ-ลานบิน

วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.เศษที่ผ่านมา บก.ควบคุม ฉก.ร.14, ตชด.347, ร้อย.ร.1413 และ มว.ค.120 ที่ 3 ได้เร่งจัดกำลังพลร่วมให้การช่วยเหลือบุตรชายแรกเกิดของ น.ส.นวพร ยอดวงศ์ษา อายุ 16 ปี ที่อยู่ 6 ม.3 ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งมีอาการคลอดบุตรก่อนกำหนด ทำให้บุตรลำไส้ไหลออกมาจากช่องท้อง และไม่มีผนังหน้าท้อง

โดยได้รับการสนับสนุน ฮท.212 จากกองกำลังนเรศวรลำเลียงผู้ป่วยไปส่งยังจังหวัดพิษณุโลกอย่างเร่งด่วน เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลพุทธชินราช อย่างเร่งด่วน


กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. เฮลิคอปเตอร์ก็นำผู้ป่วยส่งต่อมายังโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ซึ่งพบว่าผู้ป่วยเป็นทารกเพศชายคลอดก่อนกำหนด อายุครรภ์ 33 สัปดาห์ ที่ระหว่างคลอดมีลำไส้ไหลออกมาจากช่องท้อง-ไม่มีผนังหน้าท้อง และโรงพยาบาลตากสินมหาราชไม่มีแพทย์ศัลยกรรมเด็กเฉพาะทาง จึงต้องส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราชที่มีแพทย์


โดยทันทีที่ลงเครื่อง ทีมแพทย์ฉุกเฉิน รพ.พุทธชินราชได้เตรียมนำผู้ป่วยเข้าตู้อบ แต่ พญ.ศิวนาฎ พีระเชื้อ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลตากสินมหาราช จ.ตาก พิจารณาแล้วทารกอาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากได้หยุดหายใจบนเครื่องบินก่อนหน้านี้ และหยุดหายใจอีกครั้งเมื่อถึงสนามบินกองบิน 46 ทำให้แพทย์ต้องเร่งปั๊มหัวใจเป็นการด่วน บริเวณกลางลานบิน ซึ่งใช้เวลากว่า 20 นาที ท่ามกลางการเอาใจช่วยของเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าว จากนั้นจึงนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลพุทธชินราชทันที

พญ.ศิวนาฎ พีระเชื้อ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลตากสินมหาราช จ.ตาก กล่าวว่า ผู้ป่วยเป็นทารกเพศชายยังไม่ได้ตั้งชื่อ เป็นบุตรของ น.ส.นวพร ยอดวงศ์ษา ตั้งท้องได้ 33 สัปดาห์ กับ 6 วัน ก็คลอดออกมา ลักษณะอาการลำไส้ไหลออกมาจากช่องท้อง ไม่มีผนังหน้าท้อง โดยได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลอุ้มผางมาที่โรงพยาบาลตากสินมหาราช แต่เนื่องจากแพทย์และอุปกรณ์เฉพาะทางไม่เพียงพอจึงได้ประสานไปยังกองทัพภาคที่ 3 ตามนโยบายความร่วมมือของการแพทย์ฉุกเฉิน ร่วมกับกองทัพบกและหน่วยกองบินตำรวจในการลำเลียงผู้ป่วยที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารและห่างไกล สำหรับเบื้องต้นอาการของทารกดังกล่าวยังน่าเป็นห่วง ต้องให้แพทย์ทำการรักษาเพื่อช่วยเหลือต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น