ศูนย์ข่าวศรีราชา- แชร์สนั่น...คลิปภาพกระบะยี่ห้อ MAZDA BT 50 สีเขียว ทะเบียน พม 9863 ชลบุรี เฉี่ยวชนรถ จยย.นักศึกษา ม.บูรพา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยไม่สนใจให้ความช่วยเหลือ ซ้ำยังขับรถหนีหน้าตาเฉย เหตุเกิดบริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรีมุ่งหน้าบางแสน ทำโลกโซเซียลวิจารณ์ยับ ขณะที่แม่คนเจ็บจี้แสดงตัวรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นเอาเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ ( 25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเผยแพร่คลิปจากกล้องหน้ารถคันหนึ่ง ที่สามารถจับภาพรถกระบะที่ขับมาจากถนนบายพาส เลี่ยงเมืองชลบุรี มุ่งหน้าเข้าบางแสน เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์จนล้มบริเวณทางโค้งตัดถนนสุขุมวิท ก่อนจะขับหนีไปอย่างรวดเร็วโดยที่คนขับมิได้ลงมาให้การช่วยเหลือผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์แต่อย่างใด ที่สำคัญกล้องหน้ารถยังสามารถจับหมายเลขทะเบียนรถคันก่อเหตุไว้ได้อย่าง และคลิปนี้กำลังเป็นที่วิพากวิจารณ์อย่างหนักในโลกสังคมออนไลน์ของจังหวัดชลบุรี
หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ROTJAMA SALEE” ได้นำคลิปเผยแพร่พร้อมระบุข้อความว่า...แชร์วนไปคะ MAZDA BT 50 สีเขียว ทะเบียน พม 9863 ชลบุรี ...( เฉี่ยวชนมอไซค์แล้วหนี) บริเวณทางเลี่ยงเมืองตรงหน้าวัดจรูญขาเข้าบางแสน ขอบคุณเจ้าของกล้องหน้ารถด้วยคะที่ติดตามให้ ช่วยแชร์ให้ด้วยค่ะ...
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามหาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งถูกคนขับรถยี่ห้อ MAZDA BT 50 สีเขียว ทะเบียน พม 9863 ชลบุรี ซึ่งก็ได้พบกับ น.ส.รจนา สาลี อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา คณะการจัดการเทียบโอน ปีที่ 2 ซึ่งพักอยู่บริเวณห้องแถวเลขที่ 82 / 16ม. 7 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ในสภาพร่างกายมีบาดแผลทั้งขาและแขน รวมทั้งหัวไหล่ ยังมีผ้าก็อตพันไว้ได้รับบาดเจ็บหนักสาหัส
น.ส.รจนา เผยว่าในวันเกิดเหตุตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน 1 กฐ 1732 ศรีสะเกษ เพื่อจะไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยฯ แต่ระหว่างทางได้ถูกกระบะเฉี่ยวชนแล้วหนี จึงรู้สึกเสียใจที่คนขับรถกระบะ นอกจากจะไม่ลงมาให้การช่วยเหลือแล้วยังเร่งเครื่องหลบหนีไป
" หลังเกิดเหตุรู้สึกใจหายเพราะต้องนอนอยู่กลางถนนคนเดียวโดยไม่มีใคร และยังเห็นรถที่วิ่งไปมาด้วยความเร็วสูง จึงอยากจะขอให้คนที่ก่อเหตุรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเข้ามาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง เพราะเราต้องเรียนหนังสือและทำงานไปด้วย เนื่องจากอยู่กับแม่ 2 คน ซึ่งขณะนี้ได้รับความลำบากมาก" น.ส.รจนา กล่าว
เช่นเดียวกับ น.ส.คำภีร์ พงษ์สุระ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นแม่ที่บอกว่า เมื่อเห็นสภาพลูกสาวรู้สึกโมโหมาก โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นคลิปที่มีผู้บันทึกไว้ และหากลูกสาวไม่สวมหมวกกันน็อกก็คงต้องตายแน่นอน และถ้าไม่มีคลิปของผู้หวังดี คนขับรถคันก่อเหตุก็คงหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล จึงขอเรียกร้องให้คนขับรถคันก่อเหตุเข้ามารับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง เพราะขณะนี้ลำบากมาก และหากไม่ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด