กาญจนบุรี - ทนายอดีตนายสัตวแพทย์ ผู้เปิดโปงเสือโคร่งวัดป่าชื่อดังหาย 3 ตัว ออกมาทวงถามคดี หลังล่วงเลยมาหลายปี แต่เรื่องยังเงียบ
จากกรณี นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษชัยมงคล อดีตนายสัตวแพทย์ประจำวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสื่อ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้ออกมาเปิดโปงว่า เสือโคร่งพันธุ์เบงกอล เพศผู้ ชื่อดาวเหนือ อายุ 7 ปี เสือเพศผู้ ชื่อฟ้าคราม 3 อายุ 3 ปี และเสือเพศผู้ ชื่อแฮปปี้ 2 อายุ 3 ปี ถูกคนร้ายขโมยออกไปจากเกาะเสือ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 20 และวันที่ 25 ธ.ค.2557 ซึ่งกลายเป็นข่าวที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ จนนำไปสู่การที่กรมอุทยานฯ ขอหมายศาลเข้าดำเนินการตรวจค้น และขนย้ายเสือทั้งหมด จำนวน 147 ตัว ออกไปจากวัดป่า ตามที่เคยเสนอข่าวจนโด่งดังไปทั่วโลกมาแล้วเมื่อปี 2558
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 มี.ค.) นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความส่วนตัวของ นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษชัยมงคล เปิดเผยว่า คดีนี้ไปถึงศาลแล้วแต่ยังไม่มีการฟ้อง และไม่ปรากฏว่ามีการฟ้องคดี เป็นคดีของสถานีตำรวจภูธรไทรโยค โดยมีผู้ต้องหา จำนวน 4 คน คือ 1.นายอำนาจ จันทร์ที 2.พระวิสุทธิสารเถร (พระภูษิต เทียมสิน) 3.นายสมเจต จันทร์ที และ 4.นายอธิธัช ศรีมณี
โดยคดีนี้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ได้ยื่นขอผัดฟ้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2559 การดำเนินคดีปรากฏว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 มาฟ้องตามกำหนดของกฎหมาย โดยไม่ทราบผลดำเนินการ การติดตามผล สามารถติดตามสอบถามได้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค หรือที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
สำหรับคดีที่มีการฟ้องคดีต่อศาล และอยู่ระหว่างพิจารณาคดี มี 1 คดี คือ คดีอาญาหมายเลขดำที่ 563/2561 เป็นคดีของศาลจังหวัดกาญจนบุรี โดยพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน เป็นจำเลย ในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
โดยคดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้เป็นโจทก์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 และศาลได้นัดสอบคำให้การของจำเลยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 เวลา 13.30 น. การติดตามผล สามารถติดตามสอบถามได้ที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
คดีที่มีการกล่าวหามีทั้งหมด 8 คดี 1.คดีสอบสวนที่ 192/2559 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 คดีนี้ไม่ปรากฏว่ามีการกล่าวหาผู้ใดให้ตกเป็นผู้ต้องหา
2.คดีสอบสวนที่ 193/2559 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 คดีนี้ไม่ปรากฏว่า มีการกล่าวหาผู้ใดให้ตกเป็นผู้ต้องหา
3.คดีสอบสวนที่ 197/2559 ข้อหามีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในความครอบครองเกิดกำหนด และมีเลื่อนโซยนต์ไว้ในครอบครองฯตามพระราชป่าไม้ พ.ศ.2484 ผู้ถูกกล่าวหาคือ 1.พระวิสุทธิสารเถร (พระภูษิต เทียมสิน) เจ้าอาวาส 2.นายอธิธัช ศรีมณี ผู้ดูแล ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี
4.คดีสอบสวนที่ 198/2559 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ผู้ถูกกล่าวหาคือ 1.นายเนตร กุลเรืองไกร 2.พระจักกฤษณ์ อภิสุทธิพงษากุล (ปัจจุบัน ลาสิขาเป็นฆราวาส และหลบหนีการจับกุม) 5.พระสนอง แสงนาค (หลบหนีการจับกุม)
5.คดีสอบสวนที่ 200/2559 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ไม่ปรากฏว่ากล่าวหาผู้ใดให้ตกเป็นผู้ต้องหา
6.คดีสอบสวนที่ 201/2559 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ไม่ปรากฏว่ากล่าวหาผู้ใดให้ตกเป็นผู้ต้องหา
7.คดีสอบสวนที่ 202/2559 ข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ไม่ปรากฏว่ากล่าวหาผู้ใดให้ตกเป็นผู้ต้องหา
และ 8.คดีสอบสวนที่ 203/2559 ข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ผู้ถูกกล่าวหาคือ วัดป่าหลวงตาบัว 2.มูลนิธิวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน และ 3.บริษัทไทยเกอร์เทมเพิล จำกัด
คดีเหล่านี้ได้มีการสอบสวนโดยสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ผลการดำเนินคดีไม่ทราบผลการดำเนินคดีทั้งหมดว่ามีการฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่ การติดตามผล สามารถติดตามสอบถามได้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค หรือที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
นายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความส่วนตัวของนายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษชัยมงคล เปิดเผยว่า สำหรับข้อสังเกตไม่ปรากฏว่ามีการกล่าวหา หรือดำเนินคดีในกรณีเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ที่ได้หายไปจากวัดป่าหลวงตาบัวแต่อย่างใด โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือการดำเนินการ การติดตามผลกรณีคดีนี้ สามารถติดตามสอบถามได้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค หรือที่สำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
ปัจจุบัน จังหวัดกาญจนบุรี กำลังมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องเสือดำ ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปติดตามเรื่องของเสือโคร่งด้วย เพราะว่าเสือโคร่งก็เป็นเสือที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ที่หายาก
ซึ่งกรณีของเสือโคร่ง ประชาชนอาจจะเข้าใจว่าเป็นของกลางที่กรมอุทยานฯ หรือกรมป่าไม้เดิม จับกุม และยึดมาจากที่อื่นแล้วนำมาดูแลที่วัดป่าหลวงตาบัว ซึ่งมันไม่ใช่ แต่แท้ที่จริงนั้นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในขณะนั้นจับกุมเสือโคร่งที่วัดป่าหลวงตาบัว เมื่อวันที่ 12 มิถุนายก 2544 จากนั้นก็มีการเพาะพันธุ์จนกระทั่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ท้ายที่สุด กรมอุทยานฯ ก็ได้มีการตัดสินใจย้ายไปดูแลตามสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ
และยังมีอยู่อีก 1 ประเด็น ที่ว่า ทำไมภายในวัดยังมีสัตว์ชนิดอื่นๆ เหลืออยู่ และมีการปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นอดอยาก ซึ่งในประเด็นนี้คือ ในเมื่อใครเป็นเจ้าของสัตว์ก็ต้องเป็นผู้ดูแล แต่เท่าที่สังเกต ผู้ที่ดูแลก็สามารถที่จะดูแลได้เป็นอย่างดี หากมีความตั้งใจจริง เนื่องจากมีมูลนิธิฯ ที่จะดูแลได้
แต่ที่ปรากฏรู้สึกว่า จะมีการผลักดันให้สร้างสวนสัตว์ แม้จะใช้ชื่อบุคคลอื่น หรือบริษัทอื่นก็ตาม แต่ก็เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกับเจ้าของเดิม เพราะฉะนั้น เงินที่จะนำไปสร้างสวนสัตว์ให้สัตว์อยู่ในมูลนิธิฯ แล้วนำมาดูแล เชื่อว่าสัตว์เหล่านั้นคงไม่อดอยากแน่นอน แต่ก็มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า สัตว์เกิดความอดอยาก แต่เมื่อเราเป็นชาวพุทธ จึงอดที่จะสงสารไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายสุชพงศ์ บุญเสริม นอกจากจะเป็นทนายความของนายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษชัยมงคล อดีตนายสัตวแพทย์ที่เคยออกมาเปิดโปงว่ามีมือดีขโมยเสือออกไปจากวัด จำนวน 3 ตัว จนเป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ล่าสุด นายสุชพงศ์ บุญเสริม ยังเข้ามามีบทบาท เป็นทนายความให้แก่ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช พยานสำคัญของนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดีหวย 30 ล้านอลเวงอีกด้วย