อุทัยธานี - รอง ผบ.ตร.นำทีมคุมตัวหนุ่มกาตาร์อดีตทหารรับจ้าง-เมียสาวห้วยคตควงชะแลงปล้นร้านทองหนองฉาง กวาดสร้อยทองเกือบ 200 บาทหนีกบดานพัทยา ก่อนถูกตามรวบได้ขึ้น ฮ.แถลงท้องที่เกิดเหตุ เบื้องต้นผู้ต้องหารับแค่เป็นผัวเมีย-มีลูกแล้ว 4
เย็นวันนี้ (14 มี.ค.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ควบคุมตัวผู้ต้องหาใช้ชะแลงบุกชิงทรัพย์ทองรูปพรรณ ร้านทองแม่ตังกวย อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี น้ำหนัก 188 บาท รวมมูลค่า 3 ล้านบาทเศษ เมื่อค่ำของวันที่ 12 มี.ค. และนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ สภ.หนองฉาง ท้องที่เกิดเหตุ
มี พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี, พ.ต.อ.ไพสิฐ แก้วจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง และนายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมแถลงด้วย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายไปซื้อชะแลงของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเขาบางแกรก และใช้ยานพาหนะรถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไปพักอาศัยหลบซ่อนตัวอยู่ที่พัทยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วยชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6, ภาค 2, ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี, กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม, ตำรวจ สภ.หนองฉาง และตำรวจ สภ.เขาบางแกรก จึงร่วมกันเดินทางไปสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคน
ทราบชื่อต่อมาคือ นายมูฮัมหมัด อิบราฮิม เด็ม เอ อัล-มาลีกี อายุ 30 ปี เชื้อชาติกาตาร์ สัญชาติกาตาร์ มีอาชีพเป็นทหารรับจ้างที่ประเทศกาตาร์ ส่วนผู้ต้องหาหญิง ทราบชื่อคือนางสาวอาอิซะห์ อุดมวัฒนานนท์ อายุ 32 ปี เชื้อชาติไทย สัญชาติ ไทย บ้านเลขที่ 128 หมู่ 5 ต.หนองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อมของกลาง ทองคํารูปพรรณที่ได้จากการก่อเหตุครั้งนี้จำนวน 50 เส้น น้ำหนัก 143.65 บาท (2,184.17 กรัม) ซึ่งหลังก่อเหตุนายมูฮัมหมัดได้นำทองคํารูปพรรณที่ได้บางส่วนไปขายที่ย่านรังสิต-ปทุมธานี
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองรับเพียงว่าเป็นสามีภรรยากัน และมีบุตรด้วยกัน 4 คน โดยยังไม่ขอให้การใดๆ ตามสิทธิของผู้ต้องหา
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่ก่อเหตุ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ส่งฟ้องศาล ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.เข้าเมือง มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
หลังจากการแถลงข่าว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมฝากเตือนไปยังร้านทองทุกร้านเน้นการป้องกันเป็นหลักโดยติดกล้อง CCTV, สัญญาณกันขโมย ที่จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที รวมทั้งติดอุปกรณ์ป้องกันการเข้ามาชิงทรัพย์ได้สะดวก รวมทั้งหมั่นสังเกตผู้คนที่เข้ามาภายในร้าน ถ้าพบเห็นพฤติกรรมมาบ่อยจนเกินไปโดยไม่ได้ติดต่ออะไร ให้ตั้งข้อสังเกตไว้เลยว่า อาจจะมาเฝ้าดูลู่ทางการกระทำความผิด