นครพนม - ผอ.สพป.เขต 2 นครพนม ตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริง ผอ.โรงเรียนในคลิปหนุนโกงเงินคนจน หากพบเข้าข่ายความผิดพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบฟันโทษทางวินัย แต่หากไม่เข่าข่ายถือว่ายุติ ด้านเจ้าตัวอ้างไม่มีเจตนา
วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ถึงความคืบหน้ากรณี ป.ป.ท.ตรวจสอบพบมีการทุจริตการเบิกจ่ายเงินของของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพนม มีชาวบ้านผู้เสียหายกว่า 500 ราย เบิกจ่ายเงินรวมทั้ง 12 อำเภอ เป็นเงินกว่า 1.7 แสนบาท แต่มีปัญหาได้รับเงินไม่ครบตามความเป็นจริง
โดยทาง ป.ป.ท.ได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อสอบสวนเอาผิดผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังได้มีการนำหลักฐานคลิปวิดีโอและเสียงที่ชาวบ้านบันทึกเป็นหลักฐาน กรณีมีผู้อำนวยการโรงเรียนเพียงหลวง 10 ต.หนองซน อ.นาทม นัดประชุมชาวบ้าน ขอให้ชาวบ้านช่วยปกปิดข้อมูลกับ ป.ป.ท. โดยให้ยืนยันรับเงินครบ ถือเป็นหลักฐานสำคัญประกอบดำเนินคดีในฐานความผิด ให้การสนับสนุนการทุจริต
ล่าสุดวันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนเพียงหลวง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงซึ่งโรงเรียนได้เปิดสอนตามปกติ แต่ไม่พบตัวผู้อำนวยการโรงเรียนแต่อย่างใด สอบถามครูที่สอนแจ้งว่าเพิ่งออกไปทำธุระข้างนอก
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพนม ตั้งอยู่ที่บ้านภูเขาทอง ต.หนองญาติ อ.เมือง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนางสุคนธ์ ศรีสงคราม ผู้อำนวยการศูนย์ฯ แต่ไม่พบตัวเช่นกัน มีเพียงเจ้าหน้าที่ทำงานปกติ แจ้งว่านางสุคนธ์ไปราชการที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม
ทางด้านนายประสงค์ สุภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 2 นครพนม เปิดเผยว่า หลังมีข่าวชาวบ้านถ่ายคลิปผู้อำนวยการโรงเรียนเพียงหลวง 10 ต.หนองซน อ.นาทม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการทุจริตของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพนม เบื้องต้นตนได้มีการพูดคุยสอบถามไปยังเจ้าตัว คือ นายหลักชัย วงษ์หมอก ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้รับการชี้แจงว่าไม่มีเจตนา เป็นการพูดคุยหารือกับชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม ตนจะได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง หากพบว่าเข้าข่ายความผิดจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก 1 ชุดเพื่อสอบสวนเอาผิดทางวินัย แต่หากไม่เข่าข่ายความผิดถือว่ายุติ แต่หากพบว่าเป็นการกระทำที่ผิดด้วยสาเหตุอะไรก็ตามจะต้องมีการเอาผิดทางวินัยตามกฎหมาย
“ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วน แต่ที่ผ่านมายืนยันผู้บริหารโรงเรียนไม่เคยมีปัญหาในการทำงาน และเป็นโรงเรียนตัวอย่างด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นต้องรอผลการสืบข้อเท็จจริง” นายประสงค์กล่าว