พิษณุโลก - สารวัตรเกษตรบุกอายัดสารเร่งฮอร์โมน หรือสารเร่งข้าว-มันสำปะหลัง ส่อปลอม-ไม่ได้ขึ้นทะเบียน วางจำหน่ายเต็มร้านดังย่านสี่แยกอินโดจีน
วันนี้ (12 มี.ค.) นายสมเพชร พรมเมืองดี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2, นายพนิต หมวกเพชร สารวัตรเกษตรกรมวิชาการเกษตร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วม 10 นาย บุกตรวจบ้านเลขที่ 302/61 ย่านสี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านของนางญาณิน พันธ์อุดม เจ้าของ หจก.บิ๊กบอสการเกษตร และมีป้ายติด “บิ๊กบอส เรดิโอ” คลื่น FM 103.50 เมกะเฮิรตซ์อีกด้วย
เจ้าหน้าที่นำสินค้าภายในร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารเร่งฮอร์โมน หรือเร่งการเจริญเติบโตของข้าว มันสำปะหลัง ฯลฯ มาตรวจสอบกับแอปพลิเคชันข้อมูลทางวิชาการเกษตรกับสินค้าที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยกรอกตัวเลขรหัสสินค้าที่ปรากฏอยู่บนฉลากของ หจก.บิ๊กบอส ปรากฏว่าไม่ได้ขึ้นทะเบียนจริง และใช้เลขรหัสทะเบียนเป็นสินค้าของตัวอื่น ไม่ใช่สินค้าที่ร้านวางจำหน่าย เท่ากับว่าเป็นสินค้าปลอม
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจอายัดสินค้า ประกอบด้วย 1. บอสสติ๊คกี้ จำนวน 7 ถัง ถังละ 20 ขวด ขวดละ 1,000 ซีซี ราคา 360 บาท 140 ขวด รวม 50,400 บาท, 2. บีโฟท์ จำนวน 6 ถัง ถังละ 20 ขวด ขวดละ 1,000 ซีซี ราคา 360 บาท 120 ขวด รวม 43,200 บาท, 3. บีโฟร์ จำนวน 12 ถัง ถังละ 20 ขวด ขวดละ 1,000 ซีซี ราคา 360 บาท 240 ขวด รวม 86,400 บาท, 4. บีสปีด ราคา 360 บาท 20 ขวด รวม 7,200 บาท, 5. บอสเฮฟวี ราคา 250 บาท 660 ขวด รวม 165,000 บาท และ 6. โปร่า ราคา 500 บาท 310 ขวด รวม 155,000 บาท รวมมูลค่าสินค้าทั้งสิ้น 507,200 บาท
นายสมเพชร พรมเมืองดี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 เปิดเผยว่า ได้เบาะแสจากร้านค้าใน อ.วังทองว่ามีการวางจำหน่ายสารเร่งฮอร์โมนไม่ได้คุณภาพ และได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นสินค้าปลอมทะเบียนผู้ผลิต ใช้รหัสที่กรมวิชาการเกษตรออกให้สินค้าอื่นจากทาง หจก.บิ๊กบอส จึงได้อายัดสินค้าทั้งหมด พร้อมเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่กล่าวอ้างบนฉลากหรือไม่ เพราะถ้าคุณภาพไม่ได้ตามนี้จริงก็คือสินค้าปลอม จะต้องถูกแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกเรื่องฉลากปลอมไว้ก่อน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จะต้องรอผลตรวจคุณภาพสินค้าอีกครั้งหนึ่ง
นางญาณิน พันธ์อุดม เจ้าของ หจก.บิ๊กบอสการเกษตร กล่าวว่า บิ๊กบอสเป็นผู้จัดจำหน่าย โดยสั่งโรงงานผลิตสินค้าและให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนฉลาก ซึ่งปีที่ผ่านมาสารวัตรเกษตรได้ตรวจและเตือนว่าสินค้ายังไม่ได้ขึ้นทะเบียน จึงได้ประสานพร้อมจ่ายเงินไปยังโรงงานผู้ผลิตให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง แต่โรงงานแจ้งว่าขึ้นทะเบียนยังไม่เสร็จ ติดขัดเรื่องเอกสาร ทำให้สารวัตรเกษตรมาตรวจยึดอายัด
“ยอมรับว่าสินค้าที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกระจายไปยังร้านค้าบางส่วนแล้วเก็บคืนไม่ทัน จำเป็นต้องให้สารวัตรเกษตรตรวจอายัด ส่วนพ่อของตนนั้น คือ ลุงวิทย์ สวรรคโลก ดีเจนักจัดรายการชื่อดัง ไม่ได้เกี่ยวข้อง แค่ช่วยโฆษณาสินค้าให้เท่านั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัดสารเคมีทั้งหมดไว้เพื่อตรวจว่าเป็นสารชนิดใด บ้าง คาดใช้เวลา 1-2 เดือนจะทราบผลก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งหากพบว่ามีความผิดขายปุ๋ยเคมีไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 4 หมื่นถึง 2 แสนบาท และผู้ใดผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 4 หมื่นถึง 2 แสนบาท