พระเกจิอุตรดิตถ์มรณภาพยังไม่ทันเผา พระวัดดังเปิดศึกญาติแย่งสมบัติวุ่น

อุตรดิตถ์ - ส่อวุ่น..อดีตพระเกจิดังเมืองอุตรดิตถ์มรณภาพยังไม่ทันเผา พระผู้ใหญ่วัดหมอนไม้ยกเซฟบรรจุพระเลี่ยมทองเต็มตู้ไปไว้ในกุฏิตัวเอง จนญาติไม่พอใจโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ก่อน

วันนี้ (8 มี.ค.) นายประพันธ์ มายรรยงค์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นน้องชายพระสิทธิญาณมนี หรือพระครูเกษมธรรมลังการ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อดร ชื่อเดิมว่า อุดร มายรรยงค์ เจ้าอาวาสวัดหมอนไม้ หมู่ 3 ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ และเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังพระสิทธิญาณมนีละสังขาร เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา สิริอายุ 63 ปี 7 เดือน 25 วัน พรรษา 42 ทางญาติพี่น้อง ก็ยังเก็บสรีระไว้ในโลงแก้วภายในกุฏิเจ้าอาวาสหลังเดิม มีการสวดพระอภิธรรมเฉพาะวันโกนเท่านั้น และยังไม่มีกำหนดฌาปนกิจแต่อย่างใด

กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ญาติพี่น้องของพระสิทธิญาณมนี และพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ถือว่าเป็นพระผู้ใหญ่ในวัดหมอนไม้ พร้อมใจกันเปิดตู้เซฟส่วนตัวของพระสิทธิญาณมนีเพื่อดูทรัพย์สินภายในตู้เซฟว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งพบว่าภายในตู้เซฟ 4 ชั้น มีพระเครื่องเลี่ยมทองคำ, พระเครื่ององค์ที่ทำด้วยทองคำ แต่ไม่ได้นับจำนวนที่แน่นอนว่ามีจำนวนเท่าใดแน่ เพียงแต่วัดจากสายตาน่าจะมีราว 500-600 เหรียญ ไม่มีเงินหรือทรัพย์สินอื่น ก่อนปิดตู้เซฟไว้เหมือนเดิม

ขณะนั้นพระสงฆ์รูปดังกล่าว กับญาติพี่น้องของพระสิทธิญาณมนีได้ตกลงที่จะนำพระเครื่องในตู้เซฟดังกล่าวแจกจ่ายให้กันคนละ 1 เหรียญ เพื่อเป็นที่ระลึกแล้วก็ปิดตู้เซฟไว้เหมือนเดิม

แต่หลังจากปิดตู้เซฟเรียบร้อยแล้วเพียง 2 ชั่วโมง พระสงฆ์รูปเดียวกันที่ร่วมเปิดตู้เซฟ กลับสั่งให้พระเณรภายในวัดหมอนไม้ยกตู้เซฟของพระสิทธิญาณมนีไปไว้ในกุฏิตัวเอง โดยอ้างว่าหากเก็บไว้ในกุฏิเดิมกลัวสิ่งของภายในตู้เซฟจะสูญหายไป สร้างความไม่พอใจแก่ญาติพี่น้องของพระสิทธิญาณมนีเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งบอกให้พระสงฆ์นำกลับมาไว้ที่เดิมแต่พระสงฆ์ไม่ยอม

“เบื้องต้นญาติหลวงพ่อดรจึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพราะไม่พอใจเนื่องจากพระเครื่องในตู้เป็นของส่วนตัวของพระสิทธิญาณมนีที่สะสมไว้ ไม่ได้ใช้เงินของทางวัดเช่าพระมาแต่อย่างใด” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ญาติพี่น้องพระสิทธิญาณมนีไม่พอใจอย่างยิ่ง ก็คือ พระสงฆ์ที่ยกตู้เซฟ-เก็บกุญแจไว้ เป็นพระสงฆ์ที่ซื้อขายพระเครื่อง มีคนสนิทเป็นอดีตข้าราชการครูอยู่ในวงการสร้างพระเครื่อง สมัยเป็นครูได้สร้างพระเครื่องออกจำหน่าย และมีเรื่องไม่โปร่งใสในการสร้างพระเครื่องขึ้นด้วย

“ญาติพี่น้องไม่อยากจะได้พระเครื่องภายในตู้เซฟของหลวงพ่อดร แต่ต้องการให้นำพระเครื่องภายในตู้เซฟไปจำหน่ายเพื่อหาเงินมาสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากกว่า 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่ยอมยกกลับมาไว้ที่เดิมยืนยันว่าจะฟ้องร้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่”