อ่างทอง - ชาวนาปรับวิถีการอยู่รอด หันมาปลูกกล้วยตัดใบตองขายสร้างรายได้ทุกวัน หลังราคาข้าวที่ตกต่ำกระทบภัยแล้ง ใช้พื้นที่นา 10 ไร่ ปลูกกล้วยขายได้ตั้งแต่ใบ เครือ หัวปลี หน่อกล้วย จนกระทั้งลำต้นกล้วยก็ขายได้
นางสายันต์ สุขผาทอง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 48/3หมู่ 1 ตำบลเทวราช อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ชาวนาที่ปรับวิถีการทำนาหันมาปลูกกล้วย เพื่อตัดใบตองขายมีรายได้ทุกวัน หลังจากที่ ราคาข้าวตกต่ำ กระทบภัยแล้งผลผลิตไม่เต็มที่ จึงหันไปปรับพื้นที่นา จำนวน 10 ไร่ ปลูกกล้วย เพื่อทำการตัดใบตองส่งตลาดขาย ทำให้มีรายได้ทุกวัน ส่วนเครือกล้วย หัวปลี หน่อกล้วยก็ขายได้ แม้นกระทั้งลำต้นกล้วยก็ยังขายได้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่นิยมนำไปทำกระทง
ด้าน นางสายันต์ เปิดเผยว่า ตนเองทำการปลูกกล้วยตัดใบตองขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเช้าจะทำการเข้าสวนตัดใบตองนำใส่รถเข็น พอสายก็เข้าบ้านนำใบตองที่ได้มากรีดใบพับให้สวยงามทำเป็นมัดๆ ละ 10 กิโล โดยขายส่งให้พ่อค้าที่มารับถึงบ้านในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ทำให้มีรายได้ทุกวันตั้งแต่ 200-300 บาท
นอกจากนั้น ในช่วงที่กล้วยออกเครือยังตัดไปขายตลาดได้อีก รวมทั้งหัวปลีก็ตัดขายได้ ส่วนหน่อกล้วยนั้น ชาวบ้านมาจองไว้ก็ทำการขุดไปขายได้ราคางาม ส่วนต้นกล้วย ในช่วงเทศกาลลอยกระทงก็ตัดขายได้ราคาดีอีกด้วย
นางสายันต์ เผยว่า ในอดีตครอบครับมีอาชีพทำนา แต่มีปัญหามากมาย ทั้งเรื่องของราคาตกต่ำ และไม่แน่นอน รวมถึงปัญหาภัยแล้ง บางปีน้ำท่วม เงินที่ลงทุนไม่ได้คืน และกว่าจะมีราคาได้ต้องใช้เวลาหลาเดือน ปีหนึ่งทำนาได้ครั้งเดียว ตนจึงหันอาอาชีพใหม่ทำโดยหันมาปลูกกล้วยแทน ทำให้ครอบครัวมีรายได้ทุกวัน ซึ่งการปลูกกล้วยนั้นต้องหมั่นดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยเพื่อให้ใบตองที่ตัดขายนั้นมีใบใหญ่งามเหนียว ขายได้ราคาสูง
นอกจากนั้น กล้วยยังทนแล้งอีกด้วย แต่ในช่วงนี้กลัวอย่างเดียวพายุฤดูร้อน ที่ผ่านมานั้นมักทำให้สวนกล้วยเสียหาย ใบแตก และกล้วยล้ม แต่ก็ต้องยอมรับความเสียหายเนื่องจากเป็นภัยธรรมชาติ แต่ในช่วงนี้ก็มีรายได้ทุกวันต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตต่อไป