บุรีรัมย์ - ศึกษาธิการ จ.บุรีรัมย์ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงครูเฒ่าหื่นข่มขืนนักเรียน ม.3 นานร่วม 2 ปี พบมีมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจน จ่อสั่งพักราชการไม่ให้กระทบการสอบสวน พร้อมกำชับเร่งสอบสวนให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ระบุหากพบผิดจริงถึงขั้นไล่ออกเพราะประพฤติชั่วร้ายแรง
วันนี้ (2 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองของน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์, ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศึกษาธิการจังหวัด ว่าน้องเอได้ถูกข้าราชการครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน ต.หนองกง อ.นางรอง บังคับล่วงละเมิดทางเพศมานานร่วม 2 ปี และผู้ปกครองแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนบุกเข้าชาร์จจับกุมครูคนดังกล่าวได้คารีสอร์ต ขณะบังคับเด็กนักเรียนมาล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา กระทั่งต่อมาทาโรงเรียนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการครูคนดังกล่าว และล่าสุดทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 3 ต้นสังกัด ได้สรุปผลการสืบข้อเท็จจริงว่ามีมูลความจริง และเสนอศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด ขณะนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ได้พิจารณาแต่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อข้าราชการครูคนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากพบมีมูลและหลักฐานค่อนข้างชัดเจนตามที่มีการร้องเรียน หากผลการสอบวินัยร้ายแรงพบมีว่ากระทำผิดจริงจะต้องถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก หรือปลดออก เพราะถือเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง
นายสมศักดิ์ ชอบทำดี ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากแต่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อข้าราชการครูที่ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนหญิงแล้ว ได้เร่งรัดให้ดำเนินการสอบสวนวินัยให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีที่มีคำสั่งย้ายข้าราชการครูคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 เป็นการชั่วคราวนั้น หากทางสำนักงานเขตฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าหากข้าราชการครูยังปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้วจะเกิดผลกระทบต่อตัวเด็กผู้เสียหาย หรือมีผลต่อการดำเนินการทางวินัย สามารถเสนอความเห็นเพิ่มเติมว่าสมควรให้พักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน เสนอมายังศึกษาธิการจังหวัดเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมได้