xs
xsm
sm
md
lg

ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกแห่ทำบุญ-เวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวภาคตะวันออก - ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกแห่ทำบุญเนื่องในวันมาฆบูชา โดยที่ จ.จันทบุรี มีนักแสวงบุญจากทุกสารทิศหลั่งไหลเดินทางขึ้นกราบไหว้ขอพร และนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ เนื่องในวันมาฆบูชาอย่างต่อเนื่อง  ส่วนผู้ว่าฯ แปดริ้ว นำข้าราชการเวียนเทียน ขณะที่พ่อเมืองปราจีนฯ เปิดงานมาฆปูรมีศรีปราจีนฯ

เริ่มกันที่ จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ เนื่องในวันวันมาฆบูชา ว่า ยังเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชน และผู้แสวงบุญจากทุกสารทิศหลั่งไหลเดินทางขึ้นกราบไหว้ขอพร และนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคณะสงฆ์ นำโดย หลวงปู่นงค์ ชยวังโส หรือ พระครูประดิษฐ์ศาสนการ และพระภิกษุ สามเณร พร้อมพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แต่เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากจึงไม่สามารถเวียนเทียนบนยอดเขาคิชฌกูฏได้ จนต้องเปลี่ยนมาเป็นการนั่งสมาธิอธิษฐานจิตภาวนาแทน

ขณะที่บรรยากาศบนยอดเขามีหมอกปกคลุม และอากาศเย็นสบาย ส่วนคิวรถต่างๆ ทั้ง 3 จุด ก็พบว่ามีพุทธศาสนิกชนรอขึ้นรถเพื่อขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง จำนวนมากเช่นกัน

โดยตลอดเส้นทางได้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยชีพ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ทหาร และอาสารักษาดินแดนจังหวัดจันทบุรี คอยดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่นักแสวงบุญตลอด 24 ชั่วโมง

พ่อเมืองปราจีนฯ เปิดงานมาฆปูรมีศรีปราจีนฯ ครั้งที่ 32
 
 ส่วนที่บริเวณโบราณสถานสระมรกต อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานเปิดงานมาฆปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ 32 ประจำปี 2561 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาครัฐ เอกชน และประชาชนชาวจังหวัดปราจีนบุรี เข้าร่วมงานจำนวนมาก การจัดงานเทศกาลมาฆปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ 32 ประจำปี 2561 เพื่อเป็นการบูชา และน้อมรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ รวมทั้งคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นการสืบทอดรักษาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป

กิจกรรมในงานประกอบด้วย การสักการะพระบรมสารีริกธาตุ รอยพระพุทธบาทคู่ การปฏิบัติธรรมของนักเรียน นักศึกษา การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมทางวิชาการ นิทรรศการโต๊ะหมู่บูชา กิจกรรมนำเที่ยวเมืองโบราณศรีมโหสถ การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลาดวิถีถิ่นวิถีไทย กิจกรรมโรงทาน โดยเฉพาะในวันที่ 1 มีนาคม 2561 ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา กำหนดจัดพิธีเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ และการแสดงเทศนาพระโอวาทปกติโมกข์ เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

สำหรับบรรยากาศในการเวียนเทียน หลังจากที่เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ได้ทำการแสดงเทศน์จบแล้ว ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์เดินเวียนเทียน พร้อมด้วยพระภิกษุสงษ์ สามเณร ต่อด้วย นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด และข้าราชการ ประชาชน แม้ว่าก่อนถึงเวลาจัดงานจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่สายธารสาธุชนก็ยังคงเดินทางมาร่วมกิจกรรมเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชาอย่างคับคั่ง

ผู้ว่าฯ แปดริ้วนำข้าราชการเวียนเทียนที่วัดโสธรในรอบเกือบ 10 ปี

ผู้ว่าฯ แปดริ้ว นำข้าราชการ พร้อมประชาชนแต่งกายด้วยชุดขาว ร่วมกันเวียนเทียนที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา หลังถูกเมินห่างเหินจากผู้ว่าฯ ถึง 3-4 คนก่อนหน้า ที่หันไปใช้วัดอื่นในการประกอบพิธีการเวียนเทียนแทนมานาน ขณะบรรยากาศโดยรอบมีประชาชนทยอยเข้ามาเดินเวียนเทียนรอบกำแพงแก้วกันอย่างเนื่องแน่น

ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำข้าราชการ และประชาชนทั่วไปแต่งกายด้วยชุดขาว ประกอบพิธีเวียนเทียนร่วมกับพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ที่บริเวณภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา “วันมาฆบูชา” ท่ามกลางประชาชนทั่วไปที่ต่างทยอยเดินทางเข้ามาร่วมเวียนโดยรอบกำแพงแก้วชั้นนอกของพระอุโบสถกันอย่างเนืองแน่น

ซึ่งการเดินทางมาร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ของ นายสุวิทย์ คำดี ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราคนก่อนๆ นั้นต่างพากันไปใช้สถานที่ของวัดอื่น (วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ หรือวัดเมือง) ประกอบพิธีการเวียนเทียนแทน จึงทำให้การประกอบพิธีการเวียนเทียนที่บริเวณวัดโสธรฯ แห่งนี้มีแต่เพียงประชาชนทั่วไปเท่านั้นที่เดินทางมาเวียนเทียนกันเอง แบบต่างคนต่างมา นับตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2553 มาจนถึงปี 2561

โดยในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาในช่วงปีก่อนๆ ที่ผ่านมานั้น ที่วัดโสธร จะมีเพียงพิธีสวดมนต์ของทางคณะสงฆ์ และอุบาสกอุบาสิกาผู้ถือศีลแต่งกายด้วยชุดขาวเท่านั้น ที่เข้ามาร่วมกันประกอบพิธีการเวียนเทียนภายในกำแพงแก้วของพระอุโบสถ ส่วนบริเวณภายนอกของกำแพงแก้วนั้นจะมีประชาชนทั่วไปที่ทยอยพากันเดินทางมาเวียนเทียนแบบต่างคนต่างเดินเวียนเทียนกันเอง ขณะที่ในปีนี้ยังคงมีประชาชนเดินทางมาเวียนเทียนยังที่วัดโสธรกันอย่างหนาตามากขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 น.เป็นต้นมา















กำลังโหลดความคิดเห็น