ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจนำเมียสาวร่วมมือวางแผนให้กิ๊กฆ่าสามีตัวเองนำฝากขัง โดยมีญาติมาเยี่ยม ยันไม่ช่วยประกันตัวเกรงไม่ได้รับความปลอดภัยจากทางฝ่ายญาติสามี ส่วนเรื่องประจำเดือนไม่มานั้นคาดว่าหลอกกิ๊กเพื่อผูกมัดและเป็นการเร่งเร้าให้ลงมือโดยเร็ว
ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุใช้มีดแทง นายศุภกร ยาวิชัยย์ อายุ 45 ปี อาชีพขับรถตู้รับจ้าง เสียชีวิต ที่บริเวณที่จอดรถคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านวัดหนองป่าครั่ง กลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ก.พ. 61 ซึ่งต่อมาสามารถจับกุมตัวนายบรรลือ อู่บุญทา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี คนร้ายที่ก่อเหตุ และนางสาววาทิตา บุญต่อม อายุ 32 ปี ภรรยาสาวของนายศุภกร ที่ร่วมกันวางแผนได้
วันนี้ (28 ก.พ. 61) พ.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งนำตัวนางสาววาทิตา บุญต่อม ภรรยาสาวที่บงการฆ่าสามีตนเองไปฝากขังยังศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันนี้ได้มีญาติของนางสาววาทิตามาเยี่ยมด้วย เป็นพี่สาวของแม่นางสาววาทิตา ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนางสาววาทิตาจนครบถ้วนแล้วและผู้ต้องหาเองได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยระหว่างการนำตัวผู้ต้องหาไปขึ้นรถควบคุมนำส่งนั้นทางตำรวจได้อนุญาตให้ญาติของนางสาววาทิตาได้ขึ้นไปกับรถควบคุมด้วย ซึ่งทันทีที่นางสาววาทิตาเห็นญาติมาเยี่ยมได้โผเข้ากอดกันในรถควบคุม ซึ่งญาติได้นั่งไปด้วยกับนางวาทิตาระหว่างที่ควบคุม
ทั้งนี้ ญาติที่มาเยี่ยมนางสาววาทิตาเปิดเผยว่า ตนเป็นพี่สาวของแม่นางสาววาทิตา และได้เดินทางมาเยี่ยมนางสาววาทิตาในครั้งนี้ โดยนางสาววาทิตานั้นเท่าที่ตนรู้มีความสัมพันธ์กับนายบรรลือมานานกว่า 6 เดือนแล้ว และเรื่องประกันตัวนั้นคงไม่ประกันเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากญาติฝ่ายสามีที่โกรธแค้น ประกอบกับฐานะยากจนด้วย ส่วนลูกทั้งสองของนางสาววาทิตานั้น ทางญาติฝ่ายสามีได้รับไปเลี้ยงไว้แล้ว
ส่วนเรื่องที่นางสาววาทิตาไปให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าได้บอกกับนายบรรลือว่า ประจำเดือนไม่มาเกือบ 2 เดือนแล้วสงสัยว่าท้องนั้น ล่าสุดยังเห็นว่านางสาววาทิตาเป็นประจำเดือน ส่วนนางสาววาทิตาไปให้การตำรวจอย่างไรนั้นไม่รู้
ทางด้าน พ.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง เปิดเผยว่า กรณีเรื่องที่นางสาววาทิตาได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าได้บอกกับนายบรรลือว่า ประจำเดือนไม่มาเกือบ 2 เดือนแล้วสงสัยจะท้อง เป็นคำให้การของนางสาววาทิตาที่ได้ให้การในชั้นสืบสวนและสอบสวน ส่วนที่นางสาววาทิตาไปบอกกับนายบรรลือในตอนนั้นว่าประจำเดือนไม่มากว่า 2 เดือน อาจจะมีจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ไปควบคุมตัวนางสาววาทิตาที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า นางสาววาทิตาได้อ้างว่าประจำเดือนไม่มา 2 เดือน โดยให้การต่อตำรวจว่าได้บอกนายบรรลือไปอย่างนั้น ซึ่งเป็นการหลอกนายบรรลือเพื่อจุดประสงค์ อาจจะต้องการผูกมัด หรือเร่งเร้าให้ดำเนินการกับสามีของตนเองก็อาจจะเป็นได้ เลยต้องไปบอกกับนายบรรลือ กิ๊กที่เป็นมือสังหารแบบนั้น ส่วนจะท้องหรือไม่นั้นหากเข้าไปในเรือนจำแล้วทางเรือนจำเองก็มีการตรวจสุขภาพร่างกายอีกครั้งอยู่แล้วก่อนเข้าเรือนจำ