พิษณุโลก - แม่ทัพภาคที่ 5 นำทีมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมภาคประชาชนชาวบางระกำ ลงนามร่วมเดินเครื่อง “บางระกำ 61” ผันน้ำต้นทุนเข้าทุ่ง ให้เกษตรกรเริ่มปลูกข้าว 1 เมษาฯ หนีน้ำหลาก
วันนี้ (27 ก.พ.) พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วยเรื่องการบริหารจัดการน้ำ “บางระกำ 61” ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวร-มหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยเชิญกรมชลประทาน, เจ้าท่า, นายอำเภอต่างๆ ทั้งสุโขทัย และพิษณุโลก และตัวแทนภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ ตามแผนบางระกำ 61 กองทัพภาคที่ 3 เป็นแม่งานบูรณาหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ขับเคลื่อนแผนงาน แก้ไขปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ ทำประตูน้ำ คลองผันน้ำ แก้ปัญหาน้ำแล้งและน้ำท่วม ครอบคลุมพื้นที่ 382,000 ไร่ ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังน้อมนำแนวทางพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้ด้วย
“โครงการบางระกำโมเดล 60” ปีที่ผ่านมา ที่ถือเป็นโครงการนำร่องในการหน่วงน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระหว่างแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่าน ในพื้นที่ 265,000 ไร่ สามารถบริหารจัดการแบบประชารัฐ ส่งน้ำให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปีก่อนฤดูปกติ และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนฤดูน้ำหลาก ทำให้ประหยัดงบประมาณภาครัฐอย่างสูง โดยเฉพาะการการจ่ายเงินชดเชยให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เกษตร
นอกจากนี้ยังใช้ทุ่งบางระกำเป็นพื้นที่รองรับน้ำหลากจากลุ่มน้ำยม ลดผลกระทบจากอุทกภัย และช่วยชะลอการระบายน้ำลงสู่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถหน่วงน้ำได้ประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลจากความสำเร็จโครงการฯดังกล่าว ทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากผลิตภัณฑ์ข้าว และอาชีพประมง วันละ 300-500 บาทต่อครัวเรือน
สำหรับแผน “บางระกำ 61” จะผันน้ำต้นทุน หรือน้ำจากเขื่อนทางตอนเหนือที่จะเริ่มปล่อยน้ำนอนคลอง ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. เพื่อให้เกษตรกรแต่ละชุมชนบริหารน้ำตามแผนงาน และสามารรถเริ่มปลูกข้าวนาปี ฤดูใหม่ 1 เม.ย.นี้