อุตรดิตถ์ - ผู้การตำรวจอุตรดิตถ์ เร่งเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานขอหมายจับ มือปืนโหด ขับเก๋ง-ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มร้านลาบเป็ด รวมกว่า 50 นัด สิบเอกทหาร มทบ.35-เถ้าแก่เจ้าของร้าน รอดตายหวุดหวิด
วันนี้(23 ก.พ.) พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวถึงความคืบหน้าคนร้ายใช้อาวุธืนสงครามยิงกันที่ร้านลาบเป็ดศรีสะเกษ หมู่ 1 ต.งิ้วงาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นายสัญญา รัตนนาม อายุ 41 ปี เจ้าของร้านลาบเป็ด ถูกยิงข้อมือขวาและขาซ้าย , ส.อ.สุรชาติ เสษถาวร อายุ 33 ปี ทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่ 35 อุตรดิตถ์ ถูกยิงบริเวณหน้าท้อง แขนซ้าย และหน้าขาเหนือหัวเข่าด้านขวา
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโดยรอบ พบปลอกกระสุนปืนรวมทั้งสิ้น 51 ปลอก แยกเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด .45 ACP หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า 11 มม. จำนวน 26 ปลอก และปลอกกระสุนปืนเล็กยาวจู่โจมขนาด 7.62 ม.ม. AK 47 หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าปืนอาก้า ที่เป็นอาวุธปืนใช้ในสงคราม จำนวน 25 ปลอก
และจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณโต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ พบเศษแก้ว และอาหาร พร้อมสุราอยู่บนโต๊ะ พบรอยหัวกระสุนเจาะเข้าที่ต้นไม้
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าของร้านนั่งดื่มอยู่กับ ส.อ.สุรชาติ ขณะเดียวกันพนักงานเสิร์ฟในร้านเห็นรถยนต์เก๋งลักษณะเก่าสีเทาดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และยี่ห้อ ขับมาจอดที่บริเวณหน้าร้าน เพียงไม่นานก็ได้เสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด โดยคนร้าย 2 คน ที่นั่งรถยนต์เก๋งมาได้ลดกระจกลง แล้วใช้อาวุธปืนยิงไปที่โต๊ะ ส.อ.สุรชาติ กับเจ้าของร้านนั่งอยู่ เป็นเหตุให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ ระบุว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับ อีกไม่นานคงจะมีข่าวดี สำหรับพี่น้องชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งผู้กระทำผิดก็ไม่ใช่คนมีสีแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ กล่าวอีกว่า อาวุธสงครามในปัจจุบันนี้หาได้ง่าย ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามเว็บใต้ดินทั่วไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบลำบาก และในเคสนี้ก็เช่นเดียวกัน การใช้อาวุธสงครามจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนมีสีเสมอไป