xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรดอยหล่อปลูก “ฟักทองแฟนซี” แห่งเดียวในประเทศผลผลิต 8 แสนลูก/ปี ไม่พอขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อปลูก “ฟักทองแฟนซี” แห่งเดียวในประเทศ ส่งขายแทบไม่ทันทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ผู้บริโภคเชื่อเป็นสิ่งมงคลเปรียบเสมือนถุงเงินถุงทอง พบปริมาณผลผลิตปีนี้ 8 แสนลูกยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มากกว่า 1.5 ล้านลูก

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา เกษตรกรในอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อต้องทำงานอย่างหนักในการเก็บเกี่ยวผลผลิตและทำการคัดแยก พร้อมทั้งทำการจัดส่งผลผลิตฟักทองแฟนซีจำนวนมากให้แก่ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ โดยที่การผลิตฟักทองแฟนซีดังกล่าวนี้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อ ถือเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีการพัฒนาและส่งเสริมการผลิตมานับสิบปีแล้ว
 
กลุ่มได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอดอยหล่อและนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 8 แสนลูก ส่งขายตลาดในประเทศ รวมทั้งส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา เวียดนาม ลาว และจีน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มากถึง 1.5 ล้านลูก

นายศุภธนิศร์ ภูเวียงจันทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อ เปิดเผยว่า ฟักทองแฟนซีเป็นที่นิยมของผู้บริโภค เพราะเชื่อกันว่าเป็นสิ่งมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟักทองแฟนซีสีเหลืองและสีขาวที่มีรูปทรงคล้ายถุง เปรียบเสมือนถุงเงินถุงทอง ทั้งนี้ ถ้าราคาขายส่งปกติจะอยู่ที่ลูกละ 5-15 บาทตามขนาดและความสวย ขณะที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาที่มีการตกแต่งให้เข้ากับช่วงเทศกาลเพื่อนำไปประดับหรือไหว้เจ้าสามารถเพิ่มมูลค่าได้เป็นลูกละ 50-100 บาท โดยฟักทองแฟนซีนั้นสามารถนำไปใช้รับประทานและแปรรูปได้หลายอย่างทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ซึ่งฟักทองนี้ยังสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 6 เดือนด้วย

สำหรับการปลูกฟักทองแฟนซีนั้น ประธานวิสาหกิจชุมชนการเกษตรเพื่อการตลาดดอยหล่อบอกว่า เป็นพืชที่ปลูกง่ายไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงรบกวน เนื่องจากพืชตระกูลฟักมีภูมิต้านทานของโรคที่สูง ใช้เวลาปลูกระยะสั้นเพียง 45 วัน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม จากนั้นสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ มีต้นทุนในการปลูกไม่สูงมาก และจะมีรายได้จากการขายผลผลิตเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 9,000 บาท ซึ่งนับเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่น่าส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก








กำลังโหลดความคิดเห็น