ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำคณะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าความเสียหายเหตุอุทกภัย โดยกำชับให้เร่งดำเนินการสร้างสะพานทดแทนจุดที่สะพานขาดที่อำเภอสันป่าตอง พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเหตุอุทกภัยของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนโดยเร่งด่วน
วันนี้ (25 ต.ค.) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่, ปภ.เชียงใหม่ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าความเสียหายเหตุอุทกภัยในอำเภอแม่วาง และอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากช่วงเย็นวานนี้ (24 ต.ค.) สะพานข้ามแม่น้ำขานระหว่างบ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง กับบ้านสันปูเลย อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ถูกกระแสน้ำในแม่น้ำขานที่ไหลเชี่ยวกรากพัดสะพานขาดพังทลายจนไม่สามารถสัญจรข้ามฝั่งได้ น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มในหมู่บ้าน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายทั้งหมด
เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงที่ 1 มาตรวจสอบและเตรียมทำสะพานเบลีย์ใช้สัญจรเป็นการชั่วคราว ในส่วนของการแก้ปัญหาระยะยาว ทางองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อหลวงเตรียมประเมินการซ่อมแซมเพื่อของบประมาณในการสร้างสะพานทดแทนต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับแต่ละจังหวัดให้ความสำคัญทั้งพิธีถวายดอกไม้จันทน์และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่างๆ ควบคู่กันเพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ เช่น อำเภอสะเมิง แม่วาง สันป่าตอง และดอยหล่อ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดลำน้ำ ให้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณท้ายน้ำให้เตรียมความพร้อมและขนย้ายสิ่งของไว้ในพื้นที่สูง รวมทั้งให้จัดหารถแบ็กโฮ เครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำ เปิดทางน้ำ และนำกระสอบทรายปิดทางน้ำด้วย
นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอแม่ริม ทหารจากกองพันพัฒนาที่ 3, กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม ซึ่งได้รับผลกระทบ 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 บ้านเหมืองผ่า หมู่ 2 บ้านท้องฝาย และหมู่ 3 บ้านหัวดง รวม 70 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 260 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของและเสริมกระสอบทรายเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นเข้าไปสร้างความเสียหายภายในหมู่บ้าน
