ตาก - ตำรวจพบพระจับจริง 1 หนุ่มไทย 2 ต่างด้าวหมูไม่กลัวน้ำร้อนฝ่าฝืนประกาศห้ามเผาคุมตัวส่งดำเนินคดีทันที ขณะที่ฝ่ายปกครอง-ตำรวจแม่สอดเร่งล่ามือมืดลอบจุดไฟเผาไร่อ้อย ลามจนป่าริมถนนเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 เสียหายหลายสิบไร่
ร.ต.อ.วิเชียร สุธรรมป๋า รองสารวัตรป้องกันปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรปราบปราม สภ.พบพระ จ.ตาก พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ร่วมกันจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผา 60 วัน ของจังหวัดตาก ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.-10 เม.ย.เพื่อแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า
หลังพบว่า นายภานุภูมิ นาคกระจ่าง อายุ 24 ปี ชาวไทยที่อาศัยอยู่บ้านในพื้นที่ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ พร้อมแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 2 คน คือ นายจ่อละ อายุ 46 ปี และนายตองมี อายุ 39 ปี จุดไฟเผาหญ้า-วัชพืชริมถนนสายพบพระ-บ้านดอนเจดีย์-ช่องแคบ หลัก กม.5 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ กลางดึกที่ผ่านมา (10 ก.พ.) จากนั้นนำตัวส่ง พ.ต.ท.ชัยวิวัตน์ วัฒน์ธนะคำรณ สารวัตรปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.พบพระ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก มอบหมายให้ นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด ร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชาญวิทย์ สำแดงเดช สารวัตรสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อสืบสวน-สอบสวน ติดตามจับกุมผู้ที่ลักลอบเผาหญ้าและวัชพืชบริเวณไร่อ้อยติดถนนเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 บ้านห้วยกะโหลก หมู่ที่ 4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) จนเสียหายหลายสิบไร่
รายงานข่าวแจ้งว่า นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ตามคำสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดทันที และในวันพรุ่งนี้จะได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน หลังพบว่าเจ้าของที่ดินเป็นเอกชนรายหนึ่งที่ทำการปลูกอ้อย
ก่อนหน้านี้ฝ่ายปกครองจังหวัดตากได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานแจ้งกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้ถือปฏิบัติมาตรการห้ามเผา 60 วันอันตราย อย่างจริงจัง และเข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฎหมาย หากมีการจุดไฟเผาป่าในช่วงเวลาดังกล่าว กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จะต้องรับผิดชอบ และจะมีผลต่อการประเมินการปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดจำนวนจุดความร้อน (Hot Spot) ไม่ให้เกิน 50% ของปีที่ผ่านมา หรือไม่เกิน 41 จุด
ในช่วงการรณรงค์ห้ามจุดไฟเผาป่า หากถูกจับกุมได้จะมีโทษจำคุก 2-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-150,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ