ตาก - ทางการพม่าส่งกำลังติดอาวุธเฝ้าระวังเข้มเชิงสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1-จุดล่อแหลม ตรงข้ามบ้านริมเมย หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก และสถานที่ราชการทั่วเมืองเมียวดีทั้งวันทั้งคืน หลังข่าวลือสะพัดกลุ่มเสียผลประโยชน์จ้องก่อวินาศกรรม-ระเบิดสะพานฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารรัฐบาลพม่า-ตำรวจเมียวดี รวมทั้งอาสาสมัคร (อส.) จังหวัดเมียวดี พม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก รวมกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้ออกเฝ้าระวังบริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 ตรงข้ามบ้านริมเมย หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด และกระจายกำลังอีกจำนวนมากเฝ้าระวังจุดล่อแหลม เช่น สถานที่ราชการ ธนาคาร สวนสาธารณะ ทั่วเมืองเมียวดี ตั้งแต่วานนี้ (6 ก.พ.) ทั้งวันทั้งคืน
หลังมีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดทั่วเมืองว่าจะมีผู้สูญเสียประโยชน์เตรียมแผนก่อวินาศกรรมวางระเบิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 ขณะที่ทางด้านฝั่งไทย บริเวณเชิงสะพานนั้นเหตุการณ์ยังปกติดี ไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆ
สำหรับสถานการณ์ในเมียวดีช่วงนี้ดูตึงเครียดมาก ภายหลังจากที่ฝ่ายทหารพม่า ตำรวจได้ระดมกำลังกวาดล้างบ่อนการพนันภายในจังหวัดเมียนที่เป็นบ่อนเล็กๆ ในอาคารพาณิชย์ ตึกแถวหลายแห่งในตัวเมืองเมียวดีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกาสิโนตามแนวชายแดนในเขตทหารฝั่งพม่า ซึ่งอาจจะส่งผลให้กลุ่มเสียผลประโยชน์เกิดความไม่พอใจก็ได้ และข่มขู่ไว้ก่อนได้
ชาวพม่า ที่จังหวัดเมียวดี แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจภูธรจังหวัดเมียวดี และอาสาสมัครต้องทำงานหนักทั้งคืนทั้งวันในการออกตรวจตราพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเรื่องการวางระเบิดสะพานฯ แห่งที่ 1 นั้นไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะคงไม่มีใครกล้าขนาดนั้น ยกเว้นกองกำลังติดอาวุธ แต่เมื่อปี ค.ศ. 2010 เคยเกิดเหตุการณ์วางระเบิดบริเวณเชิงสะพานมาแล้วครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองพม่าเชื่อว่าข่าวดังกล่าวไม่น่าจะเป็นความจริง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนไทย-พม่าระบุว่า จากการหาข่าวและการตรวจสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายข่าวทหาร ทราบว่าทหารพม่าได้รับข้อมูลไม่ชัดเจน กรณีมีเหตุระเบิดที่แคมป์คนงานไทยที่ก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ที่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด
ทางการพม่าเข้าใจว่าเป็นเหตุระเบิดสะพานมิตรภาพฯ ทำให้ต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุระเบิด จึงต้องมีการจัดเวรยามประจำการบริเวณสะพานฯ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เลย เป็นมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันด้านความมั่นคง ไม่ได้มีเหตุในเรื่องความขัดแย้งอื่นๆ ของกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ใดๆ เลย อีกอย่างก็เป็นการลาดตระเวนและตรวจตราตามปกติของฝ่ายความมั่นคงพม่าเท่านั้น
