ปราจีนบุรี - สุดทน “หมอแสง” ประกาศหยุดผลิตยารักษามะเร็ง หลังวันที่ 20 ก.พ.นี้ หลังสับสนนโยบายกรมการแพทย์ฯ เดี๋ยวรับรอง เดี๋ยวไม่รับรอง พร้อมฝากถามอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ทำให้ประชาชนดีใจเพื่ออะไร สุดท้ายก็อ้างเรื่องเอกสาร เปิดทางหากทีมงานสนใจพร้อมให้สูตรจดทะเบียนต่างประเทศ บอกสุดทนระบบราชการไทย
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังจากที่ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาแถลงถึงการรับรองการเป็นหมอพื้นบ้านของ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปราจีนบุรี หรือ “หมอแสง” ว่า ขณะนี้กรมการแพทย์ฯ ยังไม่ได้มีการรับรองให้เป็นหมอพื้นบ้าน เนื่องจากยังขาดเอกสารบางส่วนนั้น
ล่าสุด นายแสงชัย แหเลิศตระกูล ได้ออกมาเปิดใจว่า ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.2560 ที่ผ่านมา ตนเองได้ส่งเรื่องขออนุญาตเป็นหมอพื้นบ้านไปยังกรมการแพทย์แผนไทย และก่อนหน้านี้ ก็เคยยื่นเรื่องขออนุญาตไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
กระทั่งวันที่ 5 ม.ค.2561 ตนเองได้ทำหนังสืออีกหนึ่งฉบับเพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงาน และในวันที่ 29 ม.ค.2561 กรมการแพทย์ฯ ก็ได้แจ้งเรื่องการขอเอกสารแนบ และในวันที่ 3 ก.พ.2561 ได้ขอเอกสารเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ซึ่งตนเองได้ส่งมอบให้จนครบทั้งหมด แต่สุดท้าย อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ก็ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ยังไม่ได้มีการรับรองให้เป็นหมอพื้นบ้าน เนื่องจากยังขาดเอกสารบางส่วนอีก
“ก็ไม่รู้ว่าจะออกมาแถลงข่าวอย่างนี้เพื่ออะไร เพราะที่ผ่านมา ก็ทำให้ประชาชนดีใจแล้วทั่วประเทศ แต่สุดท้ายก็มาหักว่ายังไม่ให้อีก และก็ไม่รู้ว่าต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเติมนักหนา ซึ่งตัวผมเองก็สงสัยว่า ท่านอธิบดีฯ ต้องการอะไรที่ออกข่าวแบบนี้ เหมือนต้องการคนในพื้นที่ 10 คน ผมก็หาให้แล้ว ประชาชนทั้งประเทศที่จะกินสมุนไพรผมก็ต้องย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในหมู่บ้านนี้ทั้งหมด ผมก็ยอมทำให้ทุกอย่าง ออกข่าวแบบนี้ผมเสียใจนะ เพราะผมต้องอดหลับอดนอนทำเพื่อประชาชน จนมีความหวังว่าในเดือน มี.ค.นี้ พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ ในเดือน มี.ค.นี้ คงไม่มีการแจกยาอย่างแน่นอนเช่นกัน”
นายแสงชัย ยังเผยอีกว่า เมื่อเรื่องราวกำกวมเช่นนี้ หลังวันที่ 20 ก.พ.2561 ตนเองจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะยังผลิตยาต่อไปหรือไม่ เพราะหากสุดท้ายแล้วหากทีมงานต้องการที่จะนำสูตรยาไปจดทะเบียนในต่างประเทศ ตนเองก็พร้อมที่จะให้
“ผมคิดแล้วทีมงานผมใครอยากรวย ผมให้เลยไปจดทะเบียนที่ต่างประเทศ ผมเบื่อกับส่วนราชการไทยเหลือเกิน หรือไม่มีงานทำจึงตีรวนกันอยู่อย่างนี้ หรือว่ากลัวว่าผมเป็นคู่แข่งกับ “เบญจอมฤตย์” ผมจะได้หลีกทางให้แล้วหยุด เพื่อให้ประชาชนไปรับยาที่กรมการแพทย์ เพราะ เบญจอมฤตย์ ก็รักษามะเร็งเช่นกัน สุดท้ายก็คงฝากบอกไปยังอธิบดีฯ ว่าต้องการอะไร เพราะที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็รับปากแล้ว ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนวุ่นวาย ออกข่าวคนละทิศคนละทาง ต้องการอะไร และหลังวันที่ 20 ก.พ.นี้ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะหยุดผลิตยา ส่วนหน่วยงาน กรม กองที่กินยากับผมก็ไปติดตามขอยากับอธิบดีฯ ก็แล้วกัน เพราะเชื่อว่าน่าจะมียาดีกว่าผม” นายแสงชัย กล่าว