บึงกาฬ - หนุ่มเสพยาบ้าเมาจนหลอนคิดว่าคนตามมาฆ่า ขับรถกระบะไปทิ้งลงตลิ่งแม่น้ำแล้วจุดไฟเผา ชาวบ้านเห็นเข้าห้ามปรามไว้ทัน เจ้าตัวเดินหนีเข้าบ้านจุดไฟเผาบ้านจนลุกไหม้เสียหายหมดหลัง ล่าสุดตำรวจคุมตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวช นครพนม
จากกรณีมีการแชร์สนั่นบนโซเชียล หนุ่มเสพยาบ้าจนเกิดอาการหลอน คิดว่ามีคนตามมาฆ่าจึงเผารถเผาบ้านทิ้งจนวอดเสียหายหมด เป็นอีกคลิปหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา
ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬได้ติดต่อสอบถาม พ.ต.ท.ประภาส ทองคำภา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้รับการเปิดเผยว่าในวันนี้ได้ควบคุมตัวนายอัครเดช หงส์คำหล้า อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 4 บ้านป่ากอ หมู่ที่ 10 ต.ท่าสะอาด อ.เซกา ผู้ต้องหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ไปส่งยังโรงพยาบาลจิตเวชจังหวัดนครพนม เนื่องจากมีอาการคลุ้มคลั่งและประสาทหลอนคิดว่ามีคนตามมาฆ่า
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อค่ำวานนี้ (24 ม.ค.) นายอัครเดชได้จุดไฟเผาบ้านตัวเองซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 10 บ้านป่าก่อ ต.ท่าสะอาด ได้รับความเสียหายบางส่วน ซึ่ง ร.ต.อ.ทินกร ดวงแสงจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เซกา พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุสรณ์ มั่งมี ผกก.พ.ต.ท.ณัฎชัย สุภา สวป.เดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานรถดับเพลิงของ อบต.ท่าสะอาดและเทศบาลตำบลท่าสะอาดนำรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ไปช่วยสกัดดับไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสกัดดับไฟได้ ค่าเสียหายประมาณ 500,000 บาท
จากการสอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีนางบุญจันทร์ โคตรทุมมา อายุ 79 ปี ผู้เป็นยาย อาศัยอยู่กับนายอัครเดช หงษ์คำหล้า อายุ 27 ปี หลานชายเพียง 2 คน โดยนายอัครเดชมักจะเสพยาบ้าเมาอาละวาดและคลุ้มคลั่งอยู่เป็นประจำ ทำให้ผู้เป็นยายต้องหนีไปอาศัยอยู่บ้านญาติเพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับตัวเอง
นายอัครเดชจึงอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ตำรวจตามไปจับกุมได้ขณะเข้าไปหลบซ่อนในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านี้ช่วงบ่ายได้ขับรถปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน บง 241 บึงกาฬ ออกจากบ้านไปจอดอยู่ที่ลานริมเขื่อนพนังกั้นแม่น้ำศรีสงคราม แล้วปล่อยให้รถไหลลงไปตามทางลาดขั้นบันไดจนรถตกลงไปติดค้างอยู่ริมตลิ่งลึกลงไปประมาณ 15 เมตร
จากนั้นได้เอาแกลลอนน้ำมันมาเทลาดที่ยางหน้าล้อรถที่พลิกคว่ำตะแคงอยู่เพื่อจะจุดไฟเผารถทิ้งอ้างว่ามีคนร้ายซ่อนอยู่ข้างในรถที่จะแอบมาลอบฆ่าตนเอง แต่มีชาวบ้านมาออกกำลังกายอยู่ที่ลานริมตลิ่งเป็นจำนวนมากเห็นเหตุการณ์ได้ห้ามปรามเอาไว้ ทำให้นายอัครเดชเดินหนีกลับบ้านไป
อย่างไรก็ตาม พอตกค่ำนายอัครเดชได้ไปขอเงิน นางบุญจันทร์ ผู้เป็นยาย แต่ไม่ได้จึงทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งและมีอาการหลอนว่าคนจะตามมาฆ่าและก็แอบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นไม่นานก็ได้จุดไฟเผาบ้านทิ้งดังกล่าว
สำหรับค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 500,000 บาท จากนั้นได้ควบคุมตัวนายอัครเดชไปส่งยังโรงพยาบาลจิตเวช นครพนมเพื่อรักษาอาการป่วยต่อไป