ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ตำรวจตากสกัดจับหนุ่มเชียงของขับรถนำทางแก๊งยานรกขนยาบ้าหนีด่าน X-Ray แม่พริก ใช้ถนนสายรอง สุดท้ายเจอฤทธิ์กล้อง License plate ตรวจเจอตั้งแต่ลำพูน ก่อนถูกยิงสกัด ทิ้งรถ-ยาบ้าหนีที่ลำปาง สารภาพรับจ้าง 2 นายทุนชาวม้งขับรถนำส่งยาบ้าอยุธยา
ความคืบหน้ากรณีแก๊งค้ายาเสพติดขับรถปิกอัพขนยาบ้าหนีด่านตรวจ สภ.แม่พริก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไล่ติดตาม และยิงสกัด จนคนร้ายทิ้งกระสอบยาบ้าลงข้างทาง-จอดรถ หนีเข้าป่าบริเวณหน้าหมวดการทางแม่พริก จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาบ้าบรรจุในกระสอบฟาง รวม 3 ใบนั้น
วานนี้ (24 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.สกส.บช.ปส. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก จ.ลำปาง, ตำรวจภูธรตาก, สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ จับกุมนายศรชัย ฐิดาภารุ่งเรือง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 ม.11 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย พร้อมด้วยของกลางกระสอบปุ๋ยจำนวน 3 ใบ ภายในบรรจุยาบ้า จำนวน 144 มัด รวมประมาณ 288,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ฒฌ 9650 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผค 741 เชียงราย โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และอื่นๆ อีกหลายรายการ
พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส. กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเชียงราย เข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ ผ่านเส้นทางพื้นที่ อ.แม่พริก จ.ลำปาง ปลายทางอยู่ที่อยุธยา โดยจะใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผค 741 เชียงราย และกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ฒฌ 9650 กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะในการลำเลียง และนำทางตรวจดูการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่-นำทางใช้เส้นทางสายรองเพื่อหลบด่านตรวจเอกซเรย์ยาเสพติดแม่พริก
เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฝ้าระวังด้วยการตรวจสอบรถที่ผ่านมาในพื้นที่ด้วยระบบกล้อง License plate พร้อมวางแผนการจับกุมกลุ่มขบวนการที่จะขับรถผ่าน อ.แม่พริก จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน ซึ่งตรงกับที่สายลับแจ้งไว้ขับตามกันมาผ่านระบบกล้อง License plate ที่ตู้ยามทุ่งหัวช้าง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน และตู้ยามแม่ปุ อ.แม่พริก จ.ลำปาง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางสายรองที่สามารถหลบด่าน X-Ray ยาเสพติดแม่พริกเข้าสู่พื้นที่ตอนในได้
เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกสกัดจับกุม จนกระทั่งไปพบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผค 741 เชียงราย บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก อ.แม่พริก จ.ลำปาง ชุดสืบสวนจึงได้แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไล่ติดตามไปแต่ไม่ทัน จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยทำการสกัดจับกุมรถยนต์คันดังกล่าว
ขณะที่ชุดสืบสวนอีกชุดได้ไล่ติดตามรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน 1 ฒฌ 9650 กรุงเทพมหานคร ที่ขับตามกันมา โดยทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 3 นาที เมื่อติดตามทันก็ได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น แต่ปรากกว่าผู้ขับขี่ไหวตัวทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจึงพยายามขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายยิงไปที่ยางรถ แต่คนขับไม่ยอมหยุดรถ และคนที่นั่งโดยสารมาได้โยนกระสอบปุ๋ยทิ้งลงไปร่องน้ำข้างทางจำนวน 2 ใบ ก่อนที่จะจอดรถวิ่งลงเข้าป่าข้างทางหายไป
เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังปิดล้อมพื้นที่ตรวจค้นในบริเวณใกล้เคียงจนพลบค่ำและสภาพภูมิประเทศเป็นป่าเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงเรื่องความปลอดภัยจึงได้ยุติการค้นหาผู้ต้องหาที่หลบหนี และได้ตรวจค้นภายในรถพบกระสอบปุ๋ย ซึ่งมีลักษณะเดียวกันอยู่ภายในรถอีก 1 ใบ รวมกระสอบปุ๋ยจำนวน 3 ใบ จึงทำการตรวจยึดไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดตากว่าได้ทำการควบคุมตัวนายศรชัย ฐิดาภารุ่งเรือง ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผค 741 เชียงราย ไว้ได้แล้ว และให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปรับตัวพร้อมด้วยรถยนต์คันดังกล่าวมาที่ด่าน X-Ray ตรวจยาเสพติด ได้เปิดกระสอบปุ๋ยจำนวน 3 ใบพบยาบ้าอยู่ในกระสอบปุ๋ยจำนวน 144 มัด รวมประมาณ 288,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดยาบ้าพร้อมด้วยของกลางอื่นๆ
จากการสอบสวนนายศรชัยให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายอาทิตย์ หรืออาหมี่ เจริญตกูลกิจ และนายอามิ ชาวม้ง ให้ขับรถยนต์นำทางลำเลียงยาบ้าจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปส่งให้ผู้ค้าปลายทางที่อยุธยา โดยนายอาหมี่จะเป็นคนขับรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน 1 ฒฌ 9650 กรุงเทพมหานคร (บรรทุกยาบ้า) ซึ่งตนได้ตกลงรับงานนายอาหมี่ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท จากนั้นตนได้นำเงินบางส่วนมาทำการซ่อมแซมรถยนต์เพื่อทำงาน บางส่วนได้มอบให้บุตรชายและภรรยาไว้ใช้จ่าย
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บช.ปส.สอบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป